#1 tech recruiter in thailand

มาเปลี่ยนชีวิตของ Programmer ให้ดีขึ้นด้วย กฏ 80/20

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินหรือรู้จักหลักการ Pareto (หรือที่เราเรียกว่า กฏ 80/20) กล่าวว่า “สำหรับหลาย ๆ เหตุการณ์แล้ว กิจกรรม 20% จะส่งผลกระทบได้มากถึง 80%” เรามาดูกันว่า กฏ 80/20 จะมาช่วยเปลี่ยนชีวิตของ Programmer ให้ดีขึ้น ได้อย่างไร

1. เมื่อต้องเลือกว่าเมื่อใดที่ควรทำงาน

คงมี Programmers หลายคนที่เคยทำแบบนี้ คือ พวกเขามักเลือกทำงานในช่วง Working Hours แม้บริษัทจะมีนโยบาย Flexible Hours ให้แล้วก็ตาม พวกเขามักคิดเองว่า นี่คือวิธีที่พวกเขาจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล แม้ว่าพวกเขาหลายคนจะรู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากช่วงบ่ายไปแล้ว คำถามคือ แล้วกฎ 80/20 จะเข้ามาช่วยได้อย่างไร เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า งาน 80% ของคุณจะเสร็จใน 20% ของ 24 ชั่วโมงของวัน ซึ่งบางทีชั่วโมงการทำงานที่มีประสิทธิผลมากที่สุดของคุณ อาจจะเป็นช่วงเวลา 05.00 น. ถึง 9.00 น. ก็ได้ นั่นคือ คุณจะไม่รู้เลยว่า คุณสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิผลได้โดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ถ้าคุณทำงานเฉพาะในช่วง Working Hours

2. เมื่อต้องเลือก Features

Users ส่วนใหญ่ของคุณจะใช้งานเพียงแค่ 20% ของ Features ที่คุณสร้างให้ ดังนั้น คุณควรทุ่มเท 80% ของความพยายามให้กับ Features เหล่านี้และทำให้พวกมันเป็น Features ที่สำคัญ

3. เมื่อต้องจัดลำดับความสำคัญของงาน

ในฐานะของ Programmer พวกเขามักจะสร้าง To-Do-List เพื่อที่จะได้ทำงานให้เสร็จ ในกรณีส่วนใหญ่แล้ว 20% ของ To-Do-List ของคุณจะใช้เวลาของคุณมากถึง 80% ของเวลาทำงานทั้งหมด ดังนั้นการจัดเรียงว่าจะทำอะไรก่อน-หลังของคุณอาจช่วยให้คุณทำงานเสร็จได้เร็วขึ้นหรือทำส่วนที่ใหญ่หรือสำคัญที่สุดให้เสร็จก่อน การจัดเรียง To-Do-List ของคุณตามกฎนี้ จะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจได้นานขึ้นและรู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการทำ To-Do-List ให้เสร็จ

4. เมื่อต้องเริ่ม Project

80% ของเวลาที่ใช้ใน Coding Project ควรจะอุทิศให้กับ 20% แรกของในช่วงที่เริ่มต้น ซึ่งการ Brainstorm ความคิด, การสร้าง Coding Structure และการวางแผนที่ดี จะช่วยให้ Project ของคุณดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายขึ้น ดังนั้น ก่อนที่จะลองเขียน Code ขอแนะนำให้ใช้ความพยายามให้มากเพียงพอในช่วง 20% แรกของ Project

5. เมื่อต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

คุณจำเป็นต้องเรียนรู้ 20% ของบางสิ่งบางอย่างเพื่อที่จะสามารถเริ่มใช้งานงาน สมมติว่า คุณต้องการเรียนรู้ Java การเลือก 20% ที่เหมาะสมเพื่อเรียนรู้จากสิ่งนี้ จะช่วยให้คุณเรียนรู้ได้เร็วยิ่งขึ้น (เช่น การเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการ Object-Oriented, Syntax เป็นต้น) เมื่อคุณทำตามหลักการเหล่านี้เสร็จแล้ว คุณอาจจะเริ่มเขียน Code ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นแม้ว่าคุณจะยังไม่รู้จัก Java ได้มากถึง 80% ก็ตาม

6. เมื่อต้องแก้ไข Bug

การแก้ Bugs หรือ Debug อาจใช้เวลาในการเขียน Code นานหลายชั่วโมง มี Developer จำนวนมาก กล่าวว่า 80% ของ Bugs ของพวกเขาอยู่ใน 20% ของ Code ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องดีที่จะลงทุนในด้านเวลาให้มากขึ้น สำหรับการแก้ไข Bugs ใน Code เมื่อคุณพบ Bugs ต่าง ๆ เนื่องจากว่าอาจมี Bugs หลายจุดอยู่ใน Code Snippet เดียวกัน

7. เมื่อต้องหาไอเดียใหม่ ๆ

หากคุณเป็น Developers คุณอาจมีหรือได้รับไอเดียมากมายนับ 100 ไอเดียสำหรับการสร้าง Application ใหม่ ๆ ดังนั้น การที่คุณรู้ว่ามี 20% ของไอเดียทั้งหมดของคุณที่ควรค่าต่อการที่จะทำและมันจะใช้การได้ อาจจะช่วยให้คุณสามารถเลือกได้ว่า ไอเดียใดเป็นไอเดียดีที่สุดที่คุณจะนำพวกมันไปใช้

สรุป

นี่เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของแนวคิดเกี่ยวกับกฏ 80/20 ที่สามารถนำไปใช้กับการทำงานของ Programmer ได้ แต่ประเด็นที่สำคัญกว่านั้นคือ คุณจะนำมันไปประยุกต์ใช้ได้ดีแค่ไหน อย่างน้อยก็ลองนำบางข้อที่คุณสนใจ ไปประยุกต์ใช้กับงานของคุณดู

ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่

Source:  https://medium.com/

th