“ชีวิตการทำงาน” นั้น อาจเปรียบเสมือน “การเดินทาง” บางคนเจอเส้นทางที่เป็นถนนขรุขระก็อาจจะหยุดและเปิด GPS หาเส้นทางใหม่ (และเชื่อว่าเส้นทางใหม่ต้องดีกว่านี้แน่นอน) แต่บางคนก็อาจจะทนเดินต่อไปบนถนนขรุขระนั้น (และเชื่อว่าถนนขรุขระนี้เป็นเพียงทางระยะสั้น ๆ เท่านั้น เดี๋ยวพอผ่านช่วงนี้ไปก็เป็นถนนเรียบแล้ว) แล้วสำหรับคุณล่ะ เชื่อแบบไหน? โดยบทความนี้ คุณ Oviya จะเล่าประสบการณ์ของเธอเองว่า ทำไมเธอ ซึ่งทำงานเป็น Software Engineer ถึงได้ลาออกจาก Apple (หลังจากทำงานได้เพียง 8 เดือน)
หมายเหตุ: บทความนี้เป็นเพียงประสบการณ์ของคุณ Oviya ที่ทำงานกับบริษัทขนาดใหญ่แห่งนี้เท่านั้น (เพราะแต่ละทีม แต่ละองค์กร และแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งคนอื่น ๆ อาจจะมีประสบการณ์ต่างไปจากคุณ Oviya อย่างสิ้นเชิง)
ฉันจำได้ว่า ฉันได้รับ Email จากทาง Recruiter ของ Apple เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ฉันถึงกับช็อคและทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้สัมภาษณ์งานกับ Apple ในตำแหน่ง Software Engineer
เริ่มแรกเลย ฉันได้คุยโทรศัพท์กับ Recruiter (บอกเลยว่ารู้สึกประหม่ามากในตอนนั้น) แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี และต่อมาฉันก็ได้คุยกับ Hiring Manager ทางโทรศัพท์ (ซึ่งครั้งนี้ ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะจิตใต้สำนึกคิดว่า ไม่ได้งานนี้หรอก หรือเป็นเพราะอะไร แต่ฉันกลับไม่รู้สึกประหม่าใด ๆ) แต่การสัมภาษณ์งานก็ผ่านไปได้ด้วยดีอีกครั้ง และเขาก็เรียกให้ฉันไปสัมภาษณ์งานรอบสุดท้ายที่บริษัท (ฉันเตรียมตัวหนักมากสำหรับการสัมภาษณ์รอบสุดท้ายนี้) และในที่สุดการสัมภาษณ์ก็เสร็จสิ้น
หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ฉันได้รับ Job Offer มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับฉัน เพราะฉันไม่ได้เป็นนักศึกษาที่มีความโดดเด่นอะไรเลย ในขณะที่เรียน Computer Science และไม่เคยจินตนาการถึงเรื่องนี้เลย ซึ่งตอนนี้ไม่เพียงแต่ฉันจะรู้สึกประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่ฉันยังรู้สึกมั่นใจในตัวเองและมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากขึ้นอีกด้วย
ในที่สุด วันที่ 1 มิถุนายน ก็มาถึง “วันเริ่มทำงานวันแรก” ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติในทันที ซึ่งฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะความกังวลผสมกับความตื่นเต้น บวกกับความคาดหวังในสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้น 2 – 3 สัปดาห์ ฉันก็ยังรู้สึกแปลกและไม่สบายใจอยู่ ฉันได้ลองคิดทบทวนว่า “ความรู้สึกแปลก” นี้ มันคืออะไรกันแน่ แต่ฉันก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร การทำงานแต่ละวันผ่านไปช้ามาก แม้จะทำงานจากที่บ้านก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น และฉันรู้สึกว่า “ที่แห่งนี้” ไม่ใช่ ทีม, การทำงาน และวัฒนธรรมที่ฉันต้องการเลย
ฉันถึงขั้นต้องเข้ารับการบำบัดความวิตกกังวล ที่ได้รับมาระหว่างการทำงาน ความวิตกกังวลนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะฉันรู้สึกเหนื่อยกับงานที่ต้องทำ (เพราะงานก็ไม่ได้เยอะอะไรขนาดนั้น) แต่มันอาจแย่มากกว่านั้น เพราะฉันรู้สึกว่างเปล่า รู้สึกว่างานที่ทำอยู่ มันไร้ความหมาย และฉันก็รู้สึกลำบากใจกับเพื่อนร่วมงาน และงานที่ได้รับมอบหมาย ทุกอย่างราวกับเครื่องจักร ไม่มีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน (แม้ฉันจะเคยทำงานแบบ Remote มาก่อนแล้วก็ตาม)
ตอนนี้ ฉันไม่ใช่คนที่เชื่อว่า คุณควรต้องมี Passion ในงานของคุณ “งาน ก็คือ งาน” เป็นเพียงแค่วิธีหาเงินที่สามารถชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และเลี้ยงตัวคุณเองได้ในแบบที่คุณต้องการเท่านั้น แต่จะว่าไป “งาน” ก็เป็นสิ่งที่คุณต้องทำและใช้เวลาอยู่กับมัน 8 ชั่วโมง/วัน ติดต่อกัน 5 วัน/สัปดาห์ และฉันต้องการให้มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่ต้องตื่นมาด้วยความวิตกกังวล (ซึ่งในแต่ละวัน ฉันรู้สึกหมดกำลังใจมากขึ้นเรื่อย ๆ)
ฉันเริ่มคิดจะลาออกจากงานตั้งแต่ 3 เดือนแรก แต่หลายคนบอกให้ฉันให้โอกาส และลองอยู่กับมันมากกว่านี้ พอมองย้อนกลับไป นั้นก็เป็นคำแนะนำที่ดี เพราะฉันเพิ่งเข้ามาอยู่ที่บริษัทนี้ และมาเจอกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสักหน่อย ฉันฟังคำแนะนำของทุกคน และมันช่วยผลักดันให้ฉันผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
หลังจากทำงานได้ประมาณ 6 เดือน ฉันรู้ว่าการฝืนอยู่ต่อไปนั้น มันทำให้สุขภาพจิตใจของฉันแย่ลง และฉันรู้แล้วว่าต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะฉันไม่สามารถ “จัดการกับมัน” ได้อีกต่อไปแล้ว ฉันรู้ว่าหากไม่พยายามหางานใหม่เร็ว ๆ นี้ มันจะยากมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่จะลาออก เพราะฉันรู้สึกหมดแรงทุกครั้งหลังเลิกงาน มันทำให้ไม่มีแรงหรือเวลา ที่จะศึกษาหรือฝึกซ้อมเพื่อสัมภาษณ์งานใหม่
ผนวกกับฉันย้ายมาอยู่เมืองใหม่ ซึ่งไม่รู้จักใครเลย (มันดูเหมือนเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากที่จะผ่านไปได้) แต่ฉันต้องขอบคุณตัวฉันเองจริง ๆ ที่อดทนรอและลาออกเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ฉันสามารถลาออกโดยไม่เสียใจหรือเสียดายอะไร และไม่มีคำถามในใจ เช่น “แล้วถ้าต่อไป งานมันดีขึ้นล่ะ” หรือ “ถ้าฉันได้รับ Project ที่น่าสนุกมากกว่านี้ล่ะ” เพราะฉันลาออกในเวลาที่เหมาะสม และฉันได้คำตอบที่ตัวเองต้องการแล้ว
ฉันได้รับ Job Offer งานใหม่ ในเดือนมกราคม 2565 เป็นเวลาเกือบ 1 ปี ตั้งแต่สัมภาษณ์ครั้งแรกกับ Apple ซึ่งครั้งนี้เป็นบทบาทที่แตกต่างออกไป (ฉันเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้) ซึ่งลักษณะงาน ผู้คนที่ได้พบ และวัฒนธรรมขององค์กร โดยรวมดูเหมาะสมกับฉันเลยแหละ
และตอนนี้ฉันได้เข้าปฐมนิเทศมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว และรู้สึกดีกับการตัดสินใจของฉันในครั้งนี้ (หวังว่าจะไม่หลอกตัวเองอีกนะ lol) และหวังว่างานใหม่นี้จะมาเติมเต็มวันดี ๆ ให้ฉัน ฉันรู้ว่าไม่มีงานไหนที่สมบูรณ์แบบและแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่วันดี ๆ เท่านี้ แต่ฉันหวังว่างานจะกลับไปเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึก “ประสบความสำเร็จในตอนท้ายของวัน” ก็พอแล้ว
และทั้งหมดนี้คือประสบการณ์จริงของคุณ Oviya ว่า ทำไม Software Engineer ถึงลาออกจาก Apple (หลังจากทำงานได้เพียง 8 เดือน) ที่ ISM นำมาแชร์ในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ
คุณสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์ ISM Technology Recruitment หรือส่ง Resume ของคุณง่าย ๆ มาที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่
ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการมากว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย
Source: https://medium.com/