คนทำงานหลายคนมีปัญหาสุขภาพ ไม่เว้นคนในสายงานไอทีอย่าง Programmer หากคุณกำลังมีปัญหาในบทความนี้ แสดงว่าคุณไม่ได้เป็นอยู่คนเดียว และมันก็ไม่สายเกินไปที่จะป้องกันไว้ก่อน ดังนั้นให้เริ่มลงมือป้องกันตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็น Programmer มานานแค่ไหน ต่อไปนี้คือ 9 ปัญหาสุขภาพที่ Programmer ควรระวัง พร้อมวิธีป้องกัน
1. โรคชามือ จากโพรงฝ่ามือกดทับเส้นประสาท
นี่เป็นหนึ่งในโรคที่มักเจอในคนที่เป็น Programmer คุณจะไม่มีทางรู้จนกว่าข้อมือของคุณจะเริ่มเจ็บ โรคนี้เกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทมีเดียน (Median Nerve) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่วิ่งลงมาตามแขนไปยังฝ่ามือ ถูกกดหรือบีบที่ข้อมือมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเราไม่วางข้อมือด้วยแผ่นรองหรือวางในตำแหน่งที่ดีขึ้น
วิธีป้องกัน
นอนเหยียดแขนตรง
ลดการกำมือซ้ำ ๆ หรือแรง ๆ เมื่องอข้อมือ
ตั้งข้อมือให้ตรงเมื่อใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เมาส์ หรือ คีย์บอร์ด
ออกกำลังกายเพื่อปรับสภาพร่างกายและยืดกล้ามเนื้อ ก่อนและหลังนั่งทำงาน
หลีกเลี่ยงการงอและยืดข้อมือซ้ำ ๆ
หยุดพักเป็นระยะในระหว่างการทำงาน
2. ปัญหาทางสายตา
คุณสามารถเขียน Code โดยไม่มีหน้าจอได้หรือไม่? คำตอบคือ ไม่! ซึ่งนั่นไม่ใช่ตัวการหลัก แต่เมื่อคุณจ้อง Monitor อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก ปัญหาสายตาของคุณก็จะตามมา
ขอแนะนำว่า Programmer หรือใครก็ตามที่ต้องจองหน้าจออยู่ตลอด ควรสวมแว่นตาที่ช่วยลดแสงสะท้อน เพราะในปัจจุบันหน้าจอ LED นั้นสว่างมาก
วิธีป้องกัน
ใช้แว่นตัดแสงสะท้อน
ปรับ Brightness, Contrast และ Font size จนกว่าจะเจอความพอดีที่เหมาะสำหรับคุณ อย่าปรับ ให้มีแสงจ้าหรือทำให้มืดจนเกินไป
จัดเรียงโต๊ะทำงานของคุณใหม่ ตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับ Monitor คือ อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย
ให้พักสายตาของคุณ ควรปฏิบัติตามกฎ 20-20-20 พยายามละสายตาจากหน้าจอทุก ๆ 20 นาที และมองบางสิ่งที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุตเป็นเวลาประมาณ 20 วินาที กะพริบตาบ่อย ๆ นั่นคือวิธีที่คุณสามารถทำให้ดวงตาของคุณชุ่มชื้น และถ้าตาของคุณรู้สึกแห้ง ให้ลองปรึกษาแพทย์ดู
โปรดจำไว้ว่า การเข้าใกล้หน้าจอมาก ๆ จะไม่ช่วยให้คุณแก้ปัญหาทางสายตาได้เร็วขึ้นเลย
3. โรคอ้วน
นี่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับ Programmers รวมทั้งผู้ที่ต้องนั่งติดเก้าอี้ตลอดเวลา รวมถึงการทำงานโดยไม่ขยับเขยื้อน ซึ่งความเครียดสะสมพวกนี้ และนิสัยในการละเลยอาหารที่ดีและมีประโยชน์นั้น จะนำไปสู่โรคที่เป็นอันตรายอื่น ๆ ได้
วิธีป้องกัน
สำหรับเรื่องนี้ เราคงไม่ย้ำหรือต้องบอกอะไรมากนัก เพราะเชื่อว่าทุกคนคงรู้วิธีที่ทำให้สุขภาพดีอยู่แล้ว แต่แค่คุณอาจยังไม่ได้ลงมือทำ เช่น งด อาหาร Fast Food, น้ำตาล, อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง และออกกำลังกายทุกวันอย่างน้อย 30 นาที แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาออกกำลังกายให้มากขึ้น
4. อาการปวดสะโพก
อาการปวดสะโพก หมายถึง ความเจ็บปวดที่แผ่กระจายไปตามเส้นเส้นประสาท Sciatic ซึ่งแยกจากหลังส่วนล่างของคุณผ่านสะโพกและก้น รวมถึงตามขาแต่ละข้าง ซึ่งพบได้บ่อยใน Programmers
Programmers ส่วนใหญ่ประสบปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Junior หรือ Senior Developers หรือจะอยู่ในสายงานนี้มานานแค่ไหน และไม่ใช่แค่ Programmers เท่านั้น แต่ยังพบอาการเหล่านี้ได้กับคนที่นั่งทำงานบนเก้าอี้นาน ๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบเจอทั่วไปและสร้างความเจ็บปวดให้กับพวกเขา ปัญหาอาการปวดหลังและปวดสะโพกนี้พบได้มากในคนตัวสูง แม้แต่คนตัวไม่สูงก็อาจเจอความทุกข์ทรมานนี้ได้ไม่ช้าก็เร็ว หากยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม
บางคนไม่สามารถนั่งบน Office Chair ได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะมีราคาแพง หรือจะถูกหลักสรีรศาสตร์เพียงใด โดยที่ไม่ปวดสะโพกหลังจากทำงานผ่านไปหลายชั่วโมง
วิธีป้องกัน
ยืดกล้ามเนื้อทุกครั้งที่มีเวลา
เดินอย่างน้อย 2 – 3 นาทีทุก ๆ 45 นาที หรือเมื่อใดก็ตามที่คุณจำได้ว่าคุณนั่งนานเกินไป
ฝึกท่าทางที่ดีและเหมาะสม ขณะยืน นั่ง หรือนอน เพื่อลดแรงกดที่หลังส่วนล่างของคุณ
ลดน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักเกิน เพื่อลดแรงกดบนเส้นประสาทของคุณ
งดสูบบุหรี่ เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกสันหลัง
วิธีสุดท้ายคือ ลองเปลี่ยนไปใช้โต๊ะแบบยืน เพื่อป้องกันอาการข้อติดและลดปัญหาการนั่งที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
5. เครียดสะสม
การทำงานอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องจัดการกับ Software รุ่นเก่า ๆ หรือเจอเรื่องหยุ่มหยิมตลอดเวลาในการทำงานแบบ Scrum นอกจากนี้ที่ทำงานแบบ Open Offices อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เสียสมาธิได้มาก แทบไม่มีความเป็นส่วนตัว และไม่สามารถ Focus งานได้ ซึ่งก่อให้เกิดความเครียด
แม้ว่าคุณจะรัก Coding และรักอาชีพ Programming ของคุณมากแค่ไหน แต่ก็มีบางครั้งที่มันอาจทำให้รู้สึกแย่ได้ ถ้าต้องทำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ โดยที่ไม่มีความท้าทายที่แท้จริง และไม่มีอะไรใหม่ให้เรียนรู้ สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้รู้สึกเบื่อและหดหู่ได้ ถ้านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ คุณอาจต้องหา Projects ใหม่ ๆ ทำแล้วล่ะ
มันอาจเป็นงานที่แตกต่างออกไป หรือเพียงแค่ทำบางสิ่งตาม Ideas ที่พลุ่งพล่านอยู่ในสมองของคุณ และรอคอยผลงานที่จะออกมาเฉิดฉาย การทำสิ่งที่คุณสนใจสามารถทำให้ทุกอย่างดูน่าตื่นเต้นขึ้น
ความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งคือ คุณกำลังทุกข์ทรมานกับโรคซึมเศร้า และต้องการความช่วยเหลือ คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ หรือนักบำบัดโรค เพื่อประเมินอาการที่เกิดขึ้นและหาทางว่าจะแก้ไขอย่างไร
อาการซึมเศร้าไม่ใช่สิ่งที่คุณจะ “เอาชนะมันได้ง่าย ๆ” มันสามารถควบคุมทั้งชีวิตของคุณ รวมทั้งลดคามสนใจในสิ่งต่าง ๆ ดังนั้น จงพยายามต่อต้านมันให้นานพอ จนกว่าจะหาตัวช่วยได้
วิธีป้องกัน
เราทุกคนต่างก็รู้ว่า นี่เป็นสิ่งเดียวที่เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้เพราะเราเป็นมนุษย์ แต่งานง่าย ๆ บางอย่างอาจช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้
การลุกจากเก้าอี้ ออกไปรับแสงแดดและธรรมชาติ บางครั้งอาจออกไปในตอนกลางคืนภายใต้แสงจันทร์ หรือการออกกำลังกาย ก็ช่วยลดความตึงเครียดได้มาก
6. อาการปวดหัวและเวียนศีรษะ
งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า รูปแบบของอักษรและสีบางสี สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้ ซึ่งสีของ Monitor Screen ก็เป็นตัวกระตุ้นด้วยเช่นกัน
เรามักกล่าวว่า อาการไมเกรนจะไวต่อปัจจัยหลายอย่างที่อาจเป็นตัวกระตุ้น สำหรับผู้ที่ไม่ได้ป่วยเป็นไมเกรนแล้ว การจ้อง Code ทั้งวันด้วยความจดจ่อ (ทั้งจากเรื่องการมองเห็นและมุมมองของภาวะทางจิต) ก็อาจทำให้เกิดปัจจัยที่ทำให้เริ่มปวดหัวได้
การดื่มน้ำไม่เพียงพอ การดื่มกาแฟปริมาณมาก ๆ เพื่อให้ยังคงมีสมาธิในการทำงาน รวมทั้งการไม่ทานอาหารเมื่อต้องเจอกับงานเร่งด่วนเพื่อให้จบ Project ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน
วิธีป้องกัน
แทนที่จะหันไปพึ่งยาแก้ปวด ขอแนะนำให้หยุดพักจากงาน เพื่อพักสายตาและสมองของคุณ หรือออกไปเดินเล่น เพราะการออกไปเดินเล่นข้างนอก จะช่วยทำให้สมองคุณโล่งขึ้นและได้คิดอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
7. ปัญหาการนอนหลับ
หากคุณค้นหาใน Google คุณจะเห็นว่า Computer Programmers มักจะเจอปัญหาเรื่องนอนหลับยาก ซึ่งมันส่งผลให้คุณภาพชีวิตแย่ลงตามผลการวิจัย
ถ้าคุณนอนหลับไม่เพียงพอ ก็ให้แก้ไขมันซะ และไม่ได้หมายความว่า การดื่มกาแฟจะทำให้คุณตื่นได้ การนอนไม่เพียงพอจะส่งผลต่อความสามารถในการคิดของคุณ ถ้าคุณคิดไม่ออก คุณก็เขียน Program ไม่ได้ หรือแม้ทำงานได้ แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ดี
การฝืนอดนอนเป็นครั้งคราวอาจทำได้ แต่การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ ดังนั้น ลองคิดดูว่างานอะไรที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ ก็ลองเปลี่ยนมันซะ หากคุณต้องทำงานอย่างหักโหมยันเช้า นั่นอาจเป็นเพราะ ตารางงานของคุณแน่นเกินไป จนไม่สามารถยืดหยุ่นเวลาได้
8. ปัญหาลำไส้
คุณนั่งทั้งวันโดยไม่ต้องขยับอะไรมาก และกินอะไรที่หาได้ง่าย ๆ และถูกปาก คุณจึงไม่ได้กินผักและอาหารที่มีประโยชน์ นั่นอาจเป็นจุดเริ่มของปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก เป็นต้น
ดังนั้น คุณควรให้พยายามทำให้มันกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด เพราะการย่อยอาหารที่บกพร่องและการไม่อุจจาระเป็นประจำ จะสร้างปัญหาใหม่ ๆ ให้กับร่างกายของคุณ
9. การติดคาเฟอีน
พวกเราบางคนทานคาเฟอีนมากเกินไป แม้มันจะทำให้เรากระปรี้กระเปร่าชั่วขณะหนึ่ง แต่การดื่มมากเกินไปก็ส่งผลไม่ดี มี Programmers หลายคนที่ติดกาแฟมากเกินไป ดังนั้น ควรลดปริมาณลงให้มากเท่าที่จะทำได้
การดื่มในปริมาณที่สมเหตุสมผล และพยายามลดปริมาณลงเป็นระยะ ๆ จะส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณในระยะยาว แม้กาแฟจะช่วยในเรื่องการรับรู้และการเคลื่อนไหวร่างกาย แต่การดื่มตลอดทั้งวันเป็นประจำ อาจไม่ได้ผลเช่นนั้น เนื่องจากคุณกำลังเกิดภาวะดื้อคาเฟอีน
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด คุณควรหลีกเลี่ยงจากคาเฟอีนให้มากที่สุด และทำให้มันเป็นกิจวัตร คุณควรดื่มเฉพาะช่วงที่เจองานเร่งด่วนหรืองานที่ทำให้คุณต้องเหนื่อยกับมันจริง ๆ คุณยังสามารถดื่มชาเขียวแทนกาแฟได้หากคุณยังอยากได้ความกระปรี้กระเปร่า
และนี่คือ 9 ปัญหาสุขภาพที่ Programmer ควรระวัง พร้อมวิธีป้องกัน ขอบอกว่าอย่าละเลยปัญหาสุขภาพเพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว การรักษาให้หายนั้นยากกว่าการป้องกัน และ Programmer อย่างคุณ สำคัญมากต่อทุกธุรกิจ ดังนั้นอย่าลืมดูแลและใส่ใจในสุขภาพของคุณ หากคุณอยากหาโอกาสและพัฒนาตัวเองในสายงานไอที สามารถติดต่อ ISM Technology Recruitment และส่ง Resume ของคุณได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่
ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการมากว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย
Source: https://levelup.gitconnected.com/