สำหรับบทความนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของคุณ Lauren Long ซึ่งเธอเป็น Software Engineer ที่ Google ได้ถ่ายทอดประสบการณ์และความคิดของเธอ เกี่ยวกับการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งเธอรู้สึกว่าตัวเธอเอง ไม่ใช่สไตล์ของคนที่เป็น Programmer เลย เรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไร ทีมงานได้สรุปเรื่องราวของ Lauren มาให้ดังนี้ครับ
หลายปีก่อน ฉันคิดว่าการหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็น Programmer มันทำให้ฉันรู้สึกกลัว ในขณะที่ Programmer บางคนรู้สึกไม่มั่นคงในสายอาชีพนี้เพราะเริ่มไม่แน่ใจในความสามารถของพวกเขา แต่สำหรับฉันแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น
ฉันเรียนจบ Computer Science ด้วย GPA ที่สูงสุดในชั้น ฉันมีความเข้าใจในเรื่อง Algorithm เป็นอย่างดี ฉันชอบที่จะแก้ไขปัญหายากๆ ด้าน Technical และบ่อยครั้งที่ฉันมักสนุกกับการ Coding จนลืมเวลาไปเลย อันที่จริงฉันรู้ว่าตัวเองมีคุณสมบัติของการเป็น Programmer ที่ดี แต่ฉันกลับคิดว่า “ตัวฉันเองไม่ใช่สไตล์ของคนที่เป็น Programmer” เลย
ในความคิดของฉัน เกี่ยวกับคนที่เป็น Software Engineer คือคนที่ทุ่มเทเพื่อโปรเจค Open Source ชอบเล่นวีดีโอเกม ตามติดข่าวสารเทคโนโลยี และชอบไปงานสัมมนาหรืองาน Hackathon แต่เมื่อฉันเรียนจบกลับไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้เลย ในขณะที่ฉันรักการเขียน Program ฉันกลับสนใจอย่างอื่น ซึ่งทำให้ฉันไม่ได้ทำ Side Project เลย ฉันชอบนอนมากกว่าที่จะไปใช้เวลาทั้งคืนในงาน Hackathon หรือเล่นเกม
บ่อยครั้งที่ฉันเข้าใจผิดๆ ในเรื่องของ Business และทุกครั้งที่คนอื่นๆ ถามว่า “คุณเรียนด้านคอมพิวเตอร์มาใช่ไหม” ซึ่งใจจริงฉันรู้สึกว่า “ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Technical เลย” และก็อยากถามคนเหล่านั้นเหมือนกันว่าทำไมถึงได้แปลกใจกันนัก แต่ฉันก็ต้องหยุดถาม เมื่อพวกเขามักพูดว่า “คุณเป็นคนที่เข้าสังคมเก่ง” หรือ “คุณดูไม่เหมือนคนชอบเรื่องไอทีเลย” (ฉันจะคิดซะว่ามันเป็นคำชมเชยแทนแล้วกัน) บางทีฉันก็คิดว่าหลายๆ คนก็ไม่รู้จักจะพูดแบบมีชั้นเชิงเอาซะเลย มีคนรู้จักที่เก่งด้าน Technicalมากๆ คนหนึ่งบอกกับฉันว่า “Lauren เธอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Technical”
ฉันคิดว่าฉันไม่เหมาะกับการเป็น Programmer และแม้ว่าฉันจะพยายามที่จะพาตัวเองไปคลุกคลีในแวดวงพวกบริษัทด้านไอทีและเทคโนโลยี โดยไม่เคยเข้าไปฝึกงานมาก่อน แต่ฉันก็ไม่เคยเจอคนที่มีสไตล์หรือคิดแบบเดียวกับฉันเลย ซึ่งมันก็ทำให้ฉันไม่มีความสุข หากจะเปรียบเทียบ มันก็คงเหมือนกับนักกีฬาที่ Retire ตัวเองหลังได้เหรียญโอลิมปิก นั่นคือ ฉันอยากจะหลุดพ้นจากการ Coding Program หลังจากเรียนจบ ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะทำให้ฉันรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้
หลังจากจบการศึกษา ฉันได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Boxit ซึ่งเป็นธุรกิจที่เน้นด้านโลจิสติกส์มากกว่าด้านเทคโนโลยี ซึ่งมี Michael ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทรับผิดชอบงานในงานด้าน Technical เป็นหลัก ส่วนฉันเองก็ช่วยบ้างในเรื่องฟีเจอร์ของ Front-end มีหลายครั้งที่ฉันตัดสินใจอยากจะใช้เวลาในการ Coding ให้มากขึ้น แต่ฉันยังคงชอบหลบเลี่ยงงานขายและทำ Pitch Deck ให้บริษัท จนกระทั้ง Michael ลาออกจากบริษัทไป ฉันเลยต้องมุ่งความสนใจไปที่การ Coding ในส่วนของ Back-end เป็นครั้งแรกและฉันก็กลายเป็นตัวหลักที่ดูแลในงานทางด้าน Technical
ในช่วงนั้นเอง มีเพื่อนสนิทมากคนหนึ่งมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารจัดการพนักงานที่เชี่ยวชาญทางด้าน Technical เขาบอกว่า กลุ่ม Programmer จะมีสไตล์บางอย่างของตัวเอง ซึ่งฉันก็ควรจะปรับตัวให้มีลักษณะแบบนั้นบ้าง เช่น ติดตามข่าวสารกลุ่ม Hacker เป็นต้น ซึ่งนั่นทำให้ความรู้สึกเดิมๆ มันกลับมาเข้าอีกครั้ง คือ “ตัวฉันเองไม่น่าจะใช่ Programmer”
หลังจากออกจาก Boxit ฉันได้เข้าร่วมงานกับ บริษัท Nymi ในฐานะ Engineer แต่ฉันก็ได้อาสาที่จะทำงานในส่วน Customer Research แทน จากนั้นฉันก็ได้ทำงานในส่วน Product Management อีก 3 เดือน แต่ดูเหมือนงาน Coding Program ก็ยังวนเวียนอยู่ข้างๆ ฉันเสมอ และพยายามดึงดูดฉันให้กลับไปทำอีก แต่ฉันก็เลือกงานที่ไม่เกี่ยวกับด้าน Technical แล้ว ฉันรู้สึกว่า ฉันไม่เหมาะกับการเป็น Programmer แล้ว คนอื่นๆ มักเกิดคำถามกับความสามารถด้าน Technical ของฉัน ซึ่งฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะปิดกั้นโอกาสในการประสบความสำเร็จของฉัน ฉันไม่อยากเริ่มต้น Career Path ในงานที่ยิ่งทำยิ่งถอยหลังอีกแล้ว ฉันคิดว่างานที่ไม่ใช่ด้าน Technical ดูเหมือนน่าจะเข้าทางกับฉันมากกว่า
มีเพื่อนมาถามว่า ฉันจะทำอะไรหากสามารถหยุดเวลาไว้ได้ ซึ่งฉันก็ตอบมันออกมาได้ภายในเสี้ยววินาทีว่า “ฉันอยากเป็น Programmer ให้ดีกว่านี้” ซึ่งเป็นคำตอบที่ฉันเองก็ยังแปลกใจว่า ทำไมฉันถึงได้ตอบแบบนี้
จากนั้น ฉันจึงมุ่งไปข้างหน้าต่อ และย้ายมาที่ New York เพื่อทำ Programming Retreat 3 เดือน เรียกว่า Recurse Center (RC) ซึ่งเป็นศูนย์ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้เหล่า Programmer ได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะของตัวเอง ด้วยการแชร์ความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ผู้ที่เข้าร่วม Community นี้ไม่ถูกแบ่งแยก เชื้อชาติ เพศ การแสดงออก รสนิยมทางเพศ อายุ และแม้แต่ประสบการณ์การทำงาน
“ ถ้าคุณกำลังอ่านเรื่องนี้และกำลังเกิดความกลัว ว่ามีความสามารถหรือคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะเป็น Engineer หรือแม้แต่อาชีพอื่นๆ อยู่ละก็ ฉันขอให้กำลังใจพวกคุณให้ก้าวข้ามมันไปให้ได้ อย่าลดคุณค่าตัวเองเพียงเพราะไม่เห็นคนอื่นๆ ที่ทำหรือเป็นแบบเดียวกับคุณ โลกใบนี้กว้างใหญ่มากพอที่จะทำให้คุณค้นหาคนที่เป็นแบบเดียวกับคุณ แต่หากหาไม่เจอ คุณก็สามารถเป็นผู้บุกเบิกเพื่อให้คนอื่นๆ สามารถทำตามคุณได้ และถึงแม้จะเกิดปัญหาขลุกขลักไปบ้าง แต่การทำในสิ่งที่คุณรักนั้น มันก็คุ้มค่ากับการต่อสู้ไม่ใช่เหรอ “
ปัจจุบันฉันทำงานประจำในฐานะ Software Engineer ถึงแม้ฉันจะทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่มันก็ไม่ได้เป็นสัญญาณที่บอกว่าฉันไม่มีความสามารถที่จะทำมัน ทุกวันนี้ฉันกระตุ้นตัวเองและหาแรงบันดาลใจในการทำงานอยู่ทุกวัน (เพื่อนร่วมงานของฉัน มักทำให้ฉันยิ้มและสนุกระหว่างการทำงานอยู่เสมอ)
หลายปีหลังจากที่ฉันพร่ำบอกกับตัวเองว่า “ฉันไม่มีความเชี่ยวชาญในด้าน Technical” ฉันได้เข้าร่วมงานกับทีม Firebase ที่ Google, เขียนบทความเกี่ยวกับ REST ที่มีผู้เข้าชมกว่า 35,000 ครั้ง และได้นำเสนอผลงานในงาน Google I/O ที่ได้รับคะแนนเต็ม 5/5 จากผู้เข้าร่วมงาน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ฉันคาดว่า “ฉันนี่แหละ เหมาะที่จะเป็น Programmer ที่สุดแล้ว” และบางที ตัวคุณเองก็สามารถเป็นแบบนี้ได้เช่นกัน
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) บริษัทเราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 25 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานที่ท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ ฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ามากมายกำลังรอคุณอยู่
ที่มา: https://www.techinasia.com/