ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาคุณ Melissa Mcewen ได้ไปร่วมงาน Tech Event หนึ่ง และพบว่าคนที่เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็น Developer มือใหม่ทั้งที่เพิ่งจบจากสถาบันสอน Coding ต่างๆ หรือจบด้าน Computer Science มาโดยตรง แทบทุกคนที่ได้พูดคุยกับเธอก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มีปัญหาในเรื่องการ “หางานแรก” เรามาดูกันครับว่า Melissa แสดงความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้กัน
Melissa โชคดีที่เธอได้งานแรกเป็น “Junior Application developer” ที่ Columbia University ในปี 2010 ปัจจุบันดูจะเป็นช่วงที่ยากเย็นสำหรับเด็กจบใหม่หรือ Junior Dev. ในการหางานทำ บริษัทต่างๆ ที่ลงโฆษณาได้ Resume ของผู้สมัครเป็นจำนวนมาก แต่กลับบ่นว่า หา Developer ไม่ค่อยได้ มันน่าสงสัยว่าเพราะอะไร? เธอไม่ค่อยแน่ใจเรื่องสภาพเศรษฐกิจมากนัก แต่สิ่งที่นายจ้างบอกคือ “ที่ไม่จ้าง Junior Dev. ก็เพราะพวกเขาไม่สามารถจ้าง Senior Dev. เพื่อมาคอยให้คำปรึกษาหรือเป็น Mentor ให้แก่ Junior Dev. ได้” อันที่จริง Melissa เคยเห็นอัตราค่าจ้าง Senior Dev. มาบ้าง ซึ่งมีอัตราตั้งแต่ 190 – 300 เหรียญ/ชั่วโมง (ประมาณ 6,000-9,500 บาท/ชั่วโมง) นั่นคือ สาเหตุว่าทำไมพวกเขาไม่จ้าง Junior Dev. แต่เธอก็เชื่อว่า ไม่มี Senior Dev.คนไหน ทำงานทั้งวันด้วยค่าจ้าง 300 เหรียญต่อชั่วโมงหรอก แต่บริษัทแค่อ้างเรื่องค่าจ้างให้ดูเป็นเรื่องใหญ่จนเกินเหตุ
สมมติ ถ้าบริษัทใช้วิธีให้ Junior Dev. เข้ามาร่วมในทีม ก็ต้องอย่าลืมประเด็นที่ว่า Senior Dev. อาจยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงานกับ Junior Dev. หรือยังไม่เคยได้ Training ให้ใครมาก่อนด้วย ช่วงที่ Melissa เพิ่งเคยร่วมงานกับ Junior Dev. ใหม่ๆ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ที่บริษัทเลยมอบหมายงานให้ทำเพราะจะได้เรียนรู้ไปด้วยในตัว แต่สุดท้ายก็ไม่เวิร์ค เธอก็เลยให้พวกเขาไปเรียนคอร์สต่างๆ หรือไม่ก็ให้ Assignments ไปทำ แต่ขณะเดียวกัน เธอเองก็พบว่า คนเราสามารถเรียนรู้ได้จากการได้ลองทำจริงๆ อย่างตอนแรกเธอก็ไม่ค่อยเข้าใจ Features ของ JavaScript มากนัก จนวันที่เธอต้องไปอธิบายให้คนอื่นฟัง เธอถึงได้เข้าใจมัน ทำให้ Tools บางส่วนที่เธอใช้ตอน Training สามารถนำไปใช้ใน Project ต่างๆ ได้จริง
มีบางครั้งที่ Melissa รู้สึกท้อแท้ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Project Manager หรือ Manager ส่วนงานอื่น ไม่เข้าใจถึงความเป็นจริงของสถานการณ์ว่า ของแบบนี้ต้องใช้เวลาสอนงาน ในช่วงที่เธอกำลังสอน Junior Dev. อยู่ เธอคิดว่าในเรื่อง Software Development Ecosystem จำเป็นต้องทำให้ Junior Dev. มีความพร้อมก่อน แม้การ Training จะมี Cost บ้าง แต่สุดท้ายมันก็มีประโยชน์ต่อบริษัท เธอจึงได้เสนอให้มี Junior Dev. เข้าร่วมทีม เธอยอมทุ่มเทเวลาพัฒนาหลักสูตร เพื่อช่วยให้ Senior Dev. หรือคนที่จะมาเป็น Mentor มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่ก็ใช่ว่า Junior Dev. ทุกคนจะประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ คำถามคือ คุณจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้? คุณจะตำหนิ Senior Dev. ของคุณหรือไม่? และเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ Senior Dev. ทุกคนจะเป็น Mentor ที่ดีได้ บางคนก็ไม่เหมาะกับเรื่องแบบนี้ มีครั้งหนึ่งที่ Melissa ได้เป็น Mentor ให้ Junior Dev. แต่ตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยได้รับความสำคัญนัก เพราะการเป็นพี่เลี้ยงให้รุ่นน้องมันไม่ใช่ “เนื้องานหลักจริงๆ” เธอจึงไม่ค่อยอยากรับหน้าที่นี้สักเท่าไหร่ และดูเหมือนบริษัทจะใช้ความเป็นผู้หญิงมาอ้างว่า น่าจะเหมาะกับงานที่ต้องมาสอนหรือดูแลคนอื่น
อีกประเด็นที่ควรกล่าวถึงคือ ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นตัวอุปสรรคในการมีงานทำของ Junior Dev. เธอเคยมีโอกาสได้พูดคุยกับบริษัทแห่งหนึ่งใน Event ที่ไปเมื่อเร็วๆ นี้ และได้ทราบว่า งานที่ “ง่ายๆ” ทั้งหมดจะถูก Outsource ไปยังประเทศอื่น ซึ่งรวมถึงงานที่ Junior Dev. ทำด้วย นั่นหมายถึง งานของ Junior Dev. จะถูกแทนที่ด้วย Outsource
สำหรับ Junior Dev. มันก็ดูเป็นเรื่องยากสักหน่อยกว่าจะได้งานแรก แม้เป็นคำแนะนำที่อาจไม่ถูกใจนัก แต่การยอมทำงานฟรีในบาง Project ก็อาจพอช่วยได้ ถ้าคุณเลือกทำ Open Source Project ที่มีประโยชน์จริงๆ คุณก็สามารถใส่มันใน Resume ได้ หรือไม่ก็หา Mentor เอง ซึ่งงาน Meetups ดูจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่อาจจะไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทุกคน สุดท้ายมันอาจไม่ได้ช่วยอะไรคุณมากนัก เพราะอะไรที่ฟรี มันก็ไม่เหมือนกับ อะไรที่เป็นธุรกิจ เคยมี Junior Dev. บอก Melissa ว่า พวกเขาเลิกคิดจะไปงาน Meetups ต่างๆ แล้ว เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรใน Project ของเขาเลย แต่เธอก็แนะนำไปว่า พวกเขาไม่ควรล้มเลิก ควรพัฒนา Project ต่อไป ส่วน Melissa เอง เธอกลับชอบที่จะให้คำปรึกษาพูดคุยกับคนที่ไปงาน Meetup และยังคงชอบการพัฒนาหลักสูตรสำหรับการเป็น Mentor ด้วย
Melissa ไม่แน่ใจว่า อะไรคือทางออกที่ดีของ Industry นี้ เธอไม่แน่ใจว่า บริษัทที่ขาด Junior Dev. เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ความจริงก็คือ Software Developer ส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำงานที่เดียวเป็นเวลานานนัก ดังนั้น อาจจะไม่เหมาะที่บริษัทจะลงทุนในการ Training ใครหรือไม่? หรือบางทีคนใน Industry เองก็ควรถามตัวเองว่า ทำไมคนสายนี้ถึงเปลี่ยนงานบ่อย? เพราะพวกเขาเหล่านั้นแย่เอง? จะรอผลการประเมินผลประจำปีแล้วได้ขึ้นเงินเดือนให้แค่ 1% หรือจะอัพเดท Resume แล้วสมัครงานใหม่ เพื่อจะได้ขึ้นเงินเดือน 10% หรืออาจมากกว่านั้น? สำหรับเธอแล้ว คิดว่ามันไม่ใช่แค่ความล้มเหลวแค่ของบริษัทหรอก แต่มันเป็นของทั้ง Industry เลย
อ่านบทความจบแล้ว คุณคิดเห็นอย่างไรบ้างกับ ปัญหาการหางานของ Junior Developer ที่เพิ่งจบใหม่ หรือมีสาเหตุอื่นๆ น่าเป็นไปได้อีกหรือไม่
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 25 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่
Source: https://medium.com/