#1 tech recruiter in thailand

6 เรื่องยากที่ต้องเจอ เมื่อฝึก Coding ด้วยตัวเอง พร้อมวิธีรับมือ

ปัจจุบันงานไอทีเป็นที่ต้องการมากขึ้น ทำให้หลายคนหันมาสนใจเรียนรู้/ฝึก Coding กันมากขึ้น ทำให้มีช่องทางให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ด้วยตนเองมากมายโดยเฉพาะ Online Course ผ่านเว็บไซต์/Youtube/Social Media และอื่นๆ ซึ่งมีทั้งฟรีและเสียเงิน แต่การ Coding ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เรามาดู 6 เรื่องยากที่ต้องเจอ เมื่อฝึก Coding ด้วยตัวเอง พร้อมวิธีรับมือกับเรื่องยากเหล่านั้นกันดีกว่า

1. “เวลาที่เหมาะสม” ในการฝึกฝนแต่ละวัน

การที่คุณเรียนรู้/ฝึก Coding ด้วยตัวเอง พอจะคาดเดาได้ว่า คุณมีภาระ/ความรับผิดชอบอื่นๆ ที่ต้องทำ คุณอาจทำงานประจำ / งาน Part Time หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ประเด็นคือ ทุกคนก็ล้วนมีภารกิจต้องทำ คำถามคือ แล้วจะหาเวลาฝึก Coding ทุกวันได้อย่างไร? บางคนก็บอกว่า “หากคุณทุ่มเทมากพอ ก็จะหาเวลาเสมอ” ซึ่งมันก็ใช่ แต่คำถามต่อไปคือ ต้องใช้เวลาวันละมาก-น้อยแค่ไหนล่ะถึงจะเรียกว่าเหมาะสม คำถามนี้ มีแต่ตัวคุณเองที่ตอบได้ เพราะขึ้นอยู่กับบริบทในชีวิตแต่ละคน มีบางคนแนะนำให้ฝึกอย่างน้อยวันละ 15 นาที หากคุณมีเวลา ก็อาจใช้วันละ 9-10 ชม. ก็ได้ หรือไม่ก็ลองฟังคำแนะนำจากวีดีโอนี้ดูก็ได้ สรุปแล้ว มีแต่ตัวคุณเองที่รู้ และสามารถกำหนดเวลาเรียนรู้/ฝึกฝนได้ แต่คุณต้องทำเป็นกิจวัตร โดยไม่ล้มเลิกหรือหมดไฟไปซะก่อน

2. ความสมดุลระหว่าง “สิ่งที่ทำแล้วไม่ก้าวหน้า” กับ “ความรู้สึกหมดไฟ”

Xiang Zhou ผู้เขียนบทความนี้ เล่าว่า เขาเคยไม่เข้าใจใน Concept/Code snippet จากหนังสือที่อ่าน ทำอย่างไรก็ไม่เข้าใจสักที จนเขาเริ่มท้อกับมัน และต้องออกไปสูดอากาศที่ระเบียง ณ จุดนั้นทำให้เขาคิดได้ว่า ไม่ควรทำงานหนักหรือคิดในเรื่องใดมากเกินไป การเขียน Program ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้สมาธิ โดยเฉพาะเมื่อกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ Xiang พบว่าเขาจะรู้สึกว่าตัวเองมีประสิทธิภาพเมื่อ

    • พบปัญหาที่ต้องการจะแก้ไข
    • พบ Solutions ผ่าน Online forums
    • ลองใช้วิธีต่างๆ ในการแก้ปัญหา เพื่อดูว่ามีวิธีใดบ้างที่ได้ผล
    • ได้แก้ไขปัญหาหมดไป

นอกจากนี้ Xiang ได้สร้าง 50/50 Rules สำหรับตัวเอง ซึ่งใครจะเอาไปทำตามหรือประยุกต์ใช้ก็น่าจะมีประโยชน์ โดยใช้เวลา 50% แรกในการทำสิ่งที่ยากๆ เช่น ศึกษาพวก basic, concept, algorithm และเรื่องอื่นๆ ส่วนเวลาอีก 50% จะทำ Project ที่เขาสนใจหรืออยากจะทำ ซึ่งเป็นการสร้างสมดุลในการเรียนรู้แต่ละวันของเขา และมันจะนำไปสู่เรื่องที่ว่า คุณควรรักในสิ่งที่ทำ

3. ต้อง “รักในสิ่งที่ทำ”

การที่คุณ รักสิ่งที่ทำ ถือเป็นวิธีเดียวที่จะก้าวข้ามอุปสรรคไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องจริง ที่ใครๆ ก็คงรู้ดีอยู่แล้ว ถ้าคุณรักในเส้นทางที่คุณเดิน รักในงานที่คุณทำ รักในทิศทางที่คุณจะไปข้างหน้า คุณก็จะไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไรกับคุณเลย นี่คือความสำเร็จที่ไม่สามารถ ยืม ทดแทน หรือจะมาหลอกลวงได้

4. แบ่งแยกความสำคัญระหว่าง สิ่งที่ต้องรับผิดชอบในชีวิต กับการ Coding

ชีวิตคนเราทุกคนล้วนมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ คุณอาจเป็นสามี-ภรรยา หรือพ่อแม่ คุณอาจต้องดูแลครอบครัวหรือมีงานสำคัญที่คุณต้องเข้าร่วม หรือคุณอาจเป็นนักเรียน-นักศึกษาอยู่ แต่ไม่ว่าจะมีหน้าที่ใด คำถามคือคุณจะหาเวลาจากไหนในการ Coding  มันเป็นเรื่องจริงที่คุณอาจไม่มีเวลามากพอ อย่าง Xian เองเคยเว้นว่างจากการ Coding ไปนานถึง 2 เดือน แต่หลังจากนั้นเขาก็กลับไปเขียน Code ก็พบว่า เขาลืมสิ่งต่างๆ ที่เคยได้เรียนรู้ไปหลายอย่าง มันอาจทำให้หงุดหงิดเมื่อคุณหยิบหนังสือเล่มเดิมขึ้นมาและคุณก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อดี “คุณอาจต้องอ่านหนังสือบทนั้นใหม่ทั้งหมด แล้วต้องนั่งทำความเข้าใจใหม่อีกครั้งงั้นเหรอ?” นี่ถือเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องใช้ความพยายามและต้องอดทนกับมัน

คุณต้องบอกกับตัวเองว่า “ช่วงแรกของการเรียนรู้ มันอาจจะดูช้าไปบ้างและยังไม่เห็นผลชัดเจน แต่ก็ไม่เป็นไร วันพรุ่งนี้จะต้องเรียนรู้ให้มากกว่าวันนี้”

5. ต้องกระตุ้นตัวเองอยู่เสมอ

การเรียนรู้ด้วยตนเอง แตกต่าง จากการเรียนในชั้นเรียน ไม่มีใครอยู่รอบข้างเมื่อคุณกำลังเขียน Code ไม่มีเพื่อนร่วมชั้น ไม่มีปฏิสัมพันธ์คนอื่นๆ คุณจะไม่พบว่ามี “พิธีเฉลิมฉลองที่ใหญ่โต” รออยู่ที่ปลายทาง ส่วนใหญ่คุณต้องทำมันคนเดียว ขณะเดียวกันคุณมักต้องอยู่คนเดียว ดังนั้น คุณต้องหาแรงจูงใจบางอย่างเพื่อให้ตัวเองสามารถก้าวไปข้างหน้าได้

Xiang reddit (r/macsetups) อยู่เสมอ เพราะส่วนใหญ่มีแต่ Developer และพวกเขากำลังใช้ Hardware ที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้าง Software ที่เขาต้องการสร้าง ไม่มีรางวัลอะไรที่ดีมากไปกว่านี้แล้ว “คุณควรให้รางวัลตัวเองและทำให้เป็นนิสัย”

มันอาจเป็นรางวัลเล็กๆ น้อยๆ หรือยิ่งใหญ่ก็แล้วแต่ โดยอาจเป็นการอาบน้ำอุ่นเมื่อสิ้นสุดวัน หรือเครื่องดื่มเย็นๆ คุณต้องบอกตัวเองว่ากำลังทำงานที่ยอดเยี่ยมอยู่ ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นเมื่อคุณเรียนรู้การ Coding ด้วยตนเอง

6. อย่าเอาแต่เรียนรู้ จนลืมนำไปใช้งานจริง

มีบางครั้งในระหว่างที่เรียนรู้ คุณอาจมีช่วงเวลาที่รู้สึกขี้เกียจ ที่จริงไม่ใช่ว่าคุณไม่ต้องการเรียนรู้หรอก แต่คุณแค่ยังไม่อยากเผชิญกับความท้าทายในโลกการทำงานจริงๆ แค่นั้นเอง ก็คือ การทำงานเป็น Developer ดังนั้น คุณไม่ควรตกหลุมพรางความคิดที่ว่า “การที่ได้เรียนรู้อยู่ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว ไว้ค่อยคิดเรื่องงานตอนที่พร้อมก็แล้วกัน”

สิ่งที่คุณควรทำอยู่เสมอ คือ ฝึกพูดคุยและเข้าถึงใจลูกค้าของคุณ เช่น การจะสร้างเว็บไซต์ฟรีให้คนในครอบครัวหรือเพื่อน เพราะเมื่อคุณได้รับโอกาสสัมภาษณ์งาน จะได้แสดงผลงานที่คุณทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นได้ มันจะช่วยทำให้ Resume ของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น เวลาทำเราอะไรครั้งแรก มักเป็นเรื่องที่ยากเสมอ แต่คุณควรทำมันอยู่ดี

สิ่งต่างๆข้างต้นคือความท้าทาย / สถานการณ์ที่คุณต้องเผชิญกับการพัฒนานักพัฒนาซอฟต์แวร์ ยอมรับพวกเขาเผชิญกับทัศนคติที่ถูกต้อง – อุปสรรคที่คุณเผชิญเท่านั้นที่จะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นและดีขึ้น

สุดท้าย แต่ไม่น้อย, ยินดีเขียนโค้ด! เพลิดเพลินกับสิ่งที่คุณกำลังสร้างไม่ว่าจะเป็นโครงการหรืออนาคตของคุณเอง

ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 25 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่

Source:  https://medium.freecodecamp.org/

th