ในบทความนี้ คุณ Peter Diamandis จะมาพูดถึงอนาคตที่มีความหวัง ซึ่งอาจจะเปลี่ยนมุมมองของเราจากความขาดแคลนไปสู่ความก้าวหน้า อนาคตที่ผู้คนจำนวนมากจะสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของการเขียน Code เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญและยกระดับมนุษยชาติ กับบทความ ในอนาคต AI จะเข้ามาแทนที่ Coders หรือไม่?
ในระหว่างการประชุม Abundance Summit เมื่อปีที่แล้ว คุณ Emad Mostaque, CEO ของ Stability AI ได้แถลงว่า เราจะ “ไม่มีมนุษย์เขียน Code อีกต่อไปใน 5 ปีข้างหน้า” แล้วเราควรยอมรับว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และบอกกับเด็ก ๆ ของเราว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้การเขียน Code อีกต่อไปใช่หรือไม่?
มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า AI ได้ก้าวข้ามความสามารถของเหล่า Coders ที่เป็นมนุษย์ไปเรียบร้อยแล้ว ลองดู 3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้
1. ในช่วงต้นปี 2023 เจ้า ChatGPT ของ OpenAI ได้สอบผ่านการทดสอบของ Google เกี่ยวกับ Software Developers ระดับสูง
2. ต่อมาในปี 2023 GitHub ได้รายงานว่า 46% ของ Code ในทุกภาษา Programming ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ Copilot ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับ Developer ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของบริษัท
3. สุดท้าย AlphaCode ของ DeepMind โชว์ให้โลกได้รู้ว่า AI มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Programmers ที่เป็นมนุษย์ ในการแข่งขันครั้งใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5,000 คน และ AI สามารถเอาชนะ Programmers ที่มีเชี่ยวชาญได้ถึง 45% เลยทีเดียว
เนื่องจากเหตุการณ์การพัฒนาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในปีแรกของการเปิดตัว ChatGPT เท่านั้น และคุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดมากขึ้นในทุก ๆ ปี
คำถาม คือ แล้ว AI จะสามารถแทนที่ Programmers ที่เป็นมนุษย์ได้อย่างสิ้นเชิงในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือไม่?
หรือบางที แทนที่จะกำจัด Coders ออกไป Generative AI จะช่วยให้พวกเราทุกคนกลายเป็น Coders ได้หรือไม่?
หมายเหตุ: ในการประชุม Abundance Summit ประจำปี 2024 มีผู้ร่วมงานอย่าง Mustafa Suleyman (อดีต CEO ของ GitHub), Mustafa Suleyman (Co-Founder ของ DeepMind และ CEO ของ Inflection AI), Emad Mustaque (CEO ของ Stability AI), Eric Schmidt (Former CEO และ Chairman ของ Google) และ Ray Kurzweil (Google) และผู้นำด้าน AI อีกหลายคนกำลังหารือกันในหัวข้อ “AI and Coding” และความสามารถในการเปลี่ยนให้ทุกคนกลายเป็น Coders ในอนาคตอันใกล้นี้
AI กำลังทำให้การเขียน Code เข้าถึงผู้คนในวงกว้างมากขึ้น
ในอนาคตที่ Generative AI กำลังทำให้การเขียน Code เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ โดยการป้อนสิ่งที่ต้องการให้กับ AI และมันก็จะแปลงความปรารถนานั้น ๆ ให้เป็น Code ได้ ตามที่ Jensen Huang CEO ของ NVIDIA กล่าวไว้ในระหว่างการรายงานผลประกอบการปี 2023 ว่า
“เราได้ทำให้การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นประชาธิปไตยสำหรับทุกคน … หากคุณสามารถสื่อสารงานต่าง ๆ ได้ คุณก็สามารถเขียนโปรแกรมได้”
ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็น แพทย์ ทนาย หรือเด็ก ก็จะสามารถเขียน Code ได้ ซึ่งเป็นการขจัดอุปสรรคที่เคยขัดขวางความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถสร้างระบบที่ช่วยแก้ปัญหาและสร้างคุณค่าให้กับสังคมได้
Platforms ที่ทำให้เกิดการปฏิวัตินี้มักถูกเรียกว่า “No-code” และ “Low-code” ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับบุคคลที่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ในการพัฒนา Applications ได้อย่างรวดเร็วและประหยัดเวลารวมถึงงบประมาณอีกด้วย
No-code Platforms มีคุณลักษณะ Interface ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้พนักงานในธุรกิจต่าง ๆ ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในสาขาหรืออุตสาหกรรมเฉพาะ แต่มีทักษะในการเขียน Code ที่จำกัด สามารถพัฒนา Software ได้ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้สามารถเชื่อมต่อช่องว่างระหว่างความต้องการทางธุรกิจและ Software Solutions ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในทางกลับกัน Low-code Platforms ยังคงจำเป็นต้องมีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน Code แต่ก็มาพร้อมกับตัวเลือกการปรับแต่งและการบูรณาการที่มากกว่า จึงอาจจะเหมาะกับผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีชื่นชอบงานที่ซับซ้อนมากกว่า อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้ได้มอบเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพให้กับ “Citizen Developers (ผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับ Programming มาก่อน)” เพื่อสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้ สำหรับ Back-office Apps, Web Applications และ Business Automation Functions เป็นต้น
แต่ในสภาพแวดล้อมใหม่นี้ การเรียนรู้วิธีเขียน Code ยังสมเหตุสมผลอยู่หรือไม่ ตัวคุณเองควรเรียนรู้ Python หรือภาษา Programming อื่นต่อไปหรือไม่?
แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวมาจะทำให้คุณ พูดว่า “ไม่จำเป็นอีกต่อไป” แต่ Steve Brown (Chief AI Officer) ของคุณ Peter มีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป
“การเขียน Code ไม่ได้เกี่ยวกับภาษาคอมพิวเตอร์ใดภาษาหนึ่ง หรือแม้แต่การเขียนโปรแกรมด้วยตนเอง แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปลูกฝังกรอบความคิดของการคิดเชิงคำนวณ ซึ่งการเพิ่มความสามารถในการแยกย่อยปัญหาที่ซับซ้อน ออกเป็นองค์ประกอบที่สามารถจัดการได้ คิดค้นวิธีแก้ปัญหาเชิงตรรกะ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สิ่งเหล่านี้ต่างหากคือ สิ่งจำเป็น” ซึ่งทักษะนี้จะมีความสำคัญมากขึ้น
แม้ว่า AI จะทำให้เครื่องจักรสามารถพูดภาษาอังกฤษได้นั้นเป็นเรื่องจริง แต่หากคุณต้องการทำงานร่วมกับ AI จริง ๆ และใช้ประโยชน์จากพลังของมันจริง ๆ แล้วล่ะก็ การเรียนรู้หรือเข้าใจภาษา Programming จะทำให้คุณได้เปรียบอย่างชัดเจน
และสิ่งนี้คือ วิธีที่จะเปลี่ยนคุณจาก “End-user ผู้ไร้เดียงสา”
มาเป็นพันธมิตรที่สร้างสรรค์ นักแก้ปัญหา และนักคิดเชิงวิพากษ์
“Coders” ที่ดีที่สุดของมนุษยชาติ จะเป็น Hybrids
เทคโนโลยีช่วยให้แต่ละคนทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นและเร็วขึ้น หุ่นยนต์ที่ใช้ในการเกษตร ช่วยทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมากถึง 1,000 เท่า ในขณะที่คอมพิวเตอร์ได้เพิ่มศักยภาพให้กับนักลงทุน นักวิทยาศาสตร์ และศิลปินดิจิทัลอีกด้วย
ในปัจจุบัน AI ที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากนี้ ได้ช่วยให้ Programmers ได้ขยายทักษะและความสามารถในการเขียนโปรแกรมได้มากถึง 100 เท่า การเขียนโปรแกรมที่ใช้ AI เปรียบเหมือนเป็นพลังพิเศษ สำหรับทั้งมือใหม่ และ Coder ที่มีประสบการณ์ เนื่องจากเครื่องมือ AI เช่น Replit และ Copilot ของ Github ช่วยให้ Developers สร้าง Workflows ที่ซ้ำซ้อนได้โดยอัตโนมัติ, ช่วยให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น, ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปรับขนาดประสิทธิภาพการทำงานได้
ตัวอย่างเช่น นักวิจัยจาก Microsoft พบว่า Software Developers ที่ใช้ผู้ช่วย AI สามารถทำงานเสร็จได้เร็วกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ผู้ช่วย AI ถึง 55% และการศึกษาของ MIT ยังแสดงให้เห็นว่า Programmers ที่เป็นระดับ Top ใน 5% แรก สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อทำงานกับ AI
ในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้นี้ Coders ที่ดีจะเป็นแบบ Hybrids คือ มนุษย์จะทำงานร่วมกับ AI และขยายขีดความสามารถอย่างไม่จำกัด
ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ
ด้วยการทำให้ความสามารถของมนุษยชาติในการเขียน Code เข้าถึงผู้คนในวงกว้างมากขึ้น และการขยายความสามารถของผู้เขียน Code ที่มีความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้น 100 เท่า โดยใช้ AI ซึ่งเป็นเหมือนกับการที่เรากำลังชาร์จพลังให้กับอนาคตของเราได้เป็นอย่างมาก ในเวลาเดียวกัน AI ยังคงเรียนรู้วิธีการเขียน Code และปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงความสามารถของตัวเองอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ดังนั้น พวกเรากำลังเร่งอัตราความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้ว่าสิ่งนี้อาจทำให้หลายคนหวาดกลัว แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องตระหนักว่าเครื่องมือที่ได้รับการปรับปรุงเหล่านี้ จะเป็นมหาอำนาจที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการและกำจัดความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติได้ นอกจากนี้ ยังควรชี้ให้เห็นว่าเครื่องมือเหล่านี้ ช่วยให้บุคคลและทีมงานขนาดเล็กสามารถรับมือกับความท้าทาย ที่ก่อนหน้านี้มีเพียงรัฐบาลหรือองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้นที่จะสามารถจัดการได้
และทั้งหมดนี้ก็คือ ในอนาคต AI จะเข้ามาแทนที่ Coders หรือไม่?
เมื่อ หางาน IT ให้ ISM Technology Recruitment เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เพื่อให้คุณได้ “ชีวิตการทำงานในแบบที่คุณต้องการ” เพียงส่ง Resume มาที่นี่
ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ ได้เปิดทำการมาแล้วกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย