หากคุณเคยติดตาม Tutorial, ตัวอย่าง Guide หรือ Online Course ต่าง ๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนรู้การ Coding อยู่ ก็โปรดจงระวัง หลุมพราง ของ Tutorial เชื่อว่าทุกคนคงรู้ว่า Tutorial มีประโยชน์ แต่อีกมุมหนึ่ง หากใช้มันอย่างไม่ถูกต้อง ก็อาจทำให้คุณพัฒนาฝีมือได้ล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นได้เช่นกัน
Steven Kang ซึ่งเป็นเจ้าของบทความนี้ กล่าวว่า ในฐานะของ Developer ที่มุ่งเน้นและทำงานด้าน Web เท่านั้น เขาจะอ้างอิงตัวอย่างในเรื่องการพัฒนา Web เขาเชื่อว่าคำแนะนำที่จะบอกต่อไปนี้ น่าจะช่วยให้คนจำนวนมาก ลดการทำผิดพลาดบางอย่างลง โดยเฉพาะ Developer มือใหม่ ที่มักจะทำมัน ในขณะที่กำลังเรียนรู้การ Coding
หลุมพรางของ Tutorial คือ มันให้ความรู้และความเข้าใจ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นเหยื่อชั้นดีสำหรับ Developer ที่ศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเอง จากนั้นมันก็ทำให้เหยื่อเกิดความสับสนในภายหลัง คุณอาจเคยสงสัยว่าทำไมบทความ “วิธีสร้าง React App ตัวแรกของคุณ” ใน Medium ไม่ได้ทำให้พวกเขาเข้าใกล้ความจริงในการสร้าง App ขนาดใหญ่ที่พวกเขาตั้งใจจะสร้างได้จริง ๆ
โดยส่วนตัว Steven ใช้เวลาไปมากมายกับสถานการณ์ที่ค่อย ๆ แย่ลง ซึ่งเขาขอเรียกว่ามันว่า หลุมพรางของ Tutorial มันทำให้ผู้ที่เรียนรู้ได้รับความรู้บางอย่างเพื่อช่วยให้งานบางอย่างสำเร็จ แต่มันกลับไม่ได้สอนอะไรเกี่ยวกับ Programming เลย แต่สิ่งที่เขาจะบอกต่อไปนี้ จะช่วยให้คนอื่น ๆ รอดพ้นจากหลุมพราง หรือหลีกเลี่ยงมันได้โดยสิ้นเชิง
ลองเปลี่ยนตัวอย่างดู
เมื่อคุณอ่านบางอย่าง เช่น Tutorial เกี่ยวกับวิธีสร้าง “To-Do List” App อย่างง่าย มันก็สมเหตุสมผลที่คุณจะ Copy ตัวอย่างมาใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เดียวกัน ขอแนะนำให้คุณลองเปลี่ยนตัวอย่างที่จะใช้ โดยแทนที่จะสร้าง List ของ To-Do’s ก็ลองเปลี่ยนเป็น การสร้าง Address Book ด้วย Contacts เป็นต้น สิ่งนี้จะช่วยให้คุณ Focus ไปที่ประเด็นสำคัญของ Tutorial ได้ เนื่องจากคุณจะถูกบังคับให้ประยุกต์ใช้หลักการทั้งหมดใน “สภาพแวดล้อม” ที่แตกต่างออกไป
การที่คุณเปลี่ยนแนวคิดพื้นฐานของ App ตัวอย่าง ของคุณ และประสบความสำเร็จในการใช้สิ่งที่คุณได้เรียนรู้จาก Tutorial นั้น ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากกว่าที่คุณคิด นั่นหมายความว่า คุณสามารถเปลี่ยน “ตัวอย่าง” ของ App ไปเป็นอะไรก็ได้ และยังสามารถใช้ Tutorial ของ “To-Do List” เป็นตัวช่วยของคุณได้อีกด้วย
หยุด Copy และ Paste
มีคนจำนวนมากที่มักคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ในการ Copy และ Paste Code จากแหล่งข้อมูลที่พวกเขามองหา เช่นใน Stack Overflow อันที่จริงแล้ว คุณควรจะ พิมพ์ Code ด้วยตัวเองจะดีกว่า แม้ว่ามันจะเป็น Code ของคนอื่นก็ตาม ซึ่งการพิมพ์ Code ในที่นี้หมายถึง แม้ว่าคุณจะทำตามคนอื่น แต่คุณก็ต้องเป็นคนที่ ตั้งชื่อตัวแปร, เรียกใช้ Methods และ Define Classes อยู่ดี
ไม่สำคัญว่า คุณจะ Copy มาแค่ Code 9 บรรทัดหรือ 90 บรรทัด แต่ที่สำคัญคือ คุณควรพิมพ์ Code ด้วยตัวคุณเอง
พยายามใช้ตัวอย่างที่อยู่ในความทรงจำของคุณ
มันไม่แปลกเลยที่ Programmer ไม่สามารถจดจำ Code ทั้งหมดที่พวกเขาเคยใช้งาน คุณควรทราบขั้นตอนที่คุณต้องทำ และสิ่งที่คุณกำลังมองหาเมื่อต้องทำ Project หากคุณได้ลองทำตาม Tutorial หรือ Course ต่าง ๆ เกี่ยวกับการสร้าง App อยากให้คุณลองเริ่มต้นและสร้างมันขึ้นใหม่จากสิ่งที่คุณนึกออกขึ้นมา หากคุณพบว่า ตัวเองกำลังติดขัดและคุณกำลังคิดว่าต้องพึ่งพา Tutorial อยู่ นั่นเป็นไปได้ว่า คุณอาจกำลังตกหลุมพรางอยู่ พยายามใช้ตัวช่วย/ทางลัดให้น้อยที่สุดและพยายามทำต่อไป แล้วในไม่ช้าคุณจะรู้วิธีจัดการกับปัญหาจากมุมมองของคุณเอง มากกว่าจากมุมมองของคนอื่นที่เขียนคำแนะนำให้คุณอ่าน
ถามคำถาม และสืบค้นข้อมูล อย่างเหมาะสม
มี “คำถาม” ที่น่ากลัว ที่ Steven มักจะถูก “ถาม” เมื่อต้องทำงานกับหรือพยายามช่วยเหลือ Developer ใหม่ คือ “มันไม่ได้ผล”
มันไม่ใช่เพียงแค่ “คำถาม” เท่านั้น แต่ยังเป็น”วิธี” ที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ในการแก้ไขปัญหาของคุณ โดยพื้นฐานแล้วมันเหมือนกับ การจ้องมองไปที่ตัวต่อ Jigsaw ที่ยังไม่ได้ต่อจนครบ แล้วพูดว่า “มันยังไม่เสร็จเลย”
ถามตัวเองว่า คุณกำลังมองหาอะไร ในฐานะของ Developer มันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องหาสาเหตุที่ Program ไม่ทำงาน และวิธีที่เราจะสามารถแก้ไขได้
ตัวอย่างคำถาม / การค้นหาที่เหมาะสม:
คำถาม: ทำไม Router ถึงจัดการกับ Request ของฉันไม่ถูกต้อง เมื่อฉันไปที่ URL นี้
การสืบค้นข้อมูล: Request ไม่ได้รับการจัดการโดย Router Function ที่ถูกต้อง
สรุป
อันที่จริง Tutorials ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก พวกมันมีประสิทธิภาพอย่างมากในการช่วยคุณให้สามารถเริ่มทำ Project ที่คุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี แต่ปัญหาจะเริ่มปรากฏขึ้น เมื่อมีการใช้ Tutorial เป็น “ทางลัด” (มากเกินไป) เพื่อหลีกเลี่ยงการเรียนรู้ Concept ที่เกี่ยวข้อง หากคุณกำลังใช้ Tutorial เพื่อเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างอยู่ ก็โปรดจำไว้ว่า:
- ควรเปลี่ยนตัวอย่าง และบังคับตัวเองให้ประยุกต์ใช้ Concept ได้อย่างอิสระ
- พิมพ์ Code เอง เพื่อทำความเข้าใจว่า จุดประสงค์ของมันคืออะไร
- สร้างงานจากตัวอย่างที่มาความทรงจำของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่า คุณเข้าใจพวกมัน
- ถามคำถามที่เหมาะสม กับผู้อื่น หรือตัวคุณเอง เมื่อต้องเจอกับปัญหา
ในฐานะ Developer งานของเราคือ การที่ไม่จำเป็นต้องคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ไปเสียเองทั้งหมด แต่ใช้และสร้าง Tools ที่มีอยู่เพื่อทำให้ Idea ที่มีค่า ได้กลายเป็นจริงขึ้นมา
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 28 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่
Source: https://betterprogramming.pub/