หัวข้อนี้ คนไอที(พบได้ในคนทั่วไป)ที่อยู่ในช่วงวัย 30 กว่า หลายๆ ท่านอาจจะเคยเจอวิกฤตนี้มาบ้างแล้ว เพียงแต่คุณอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวแค่นั้น “Midlife Crisis” ในภาพรวมหมายถึง “ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 35 – 50 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต อาการที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตนี้คือ การคิดหมกมุ่นวนเวียนเกี่ยวกับชีวิตของตนเอง ว่าชีวิตนี้คงอยู่อีกไม่นานนัก ทำให้จดจ่อคิดถึงตนเองอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิตครอบครัว ด้านการงาน ด้านสุขภาพ”(*) แต่ความจริงแล้วสามารถเกิดได้ตั้งแต่วัย 30 ต้นๆ จนเลยวัย 50 ไปแล้ว ถ้าจะพิจารณาเฉพาะลักษณะงานของคนในสายไอทีแล้ว ถือว่าเป็นกลุ่มมีโอกาสที่จะเจอวิกฤตนี้ได้เช่นกัน และนี่ก็เป็น 5 สาเหตุ “วิกฤตวัยกลางคน” ของคนไอที
1. ความเสื่อมถอยของร่างกาย
แน่นอนว่าด้วยอายุ 30 อัพ ประกอบกับลักษณะงานของคนไอที ที่ต้องทำหามรุ่งห้ามค่ำ ต้องรีบปิดโปรเจค แก้ไขงานลูกค้า โดนลูกค้าตำหนิ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้หลายคนมีร่างกายที่อ่อนแอลง ป่วยง่ายขึ้น หรือมีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง โรคหัวใจ เป็นต้น บางคนทำงานเครียดมากจนไม่มีเวลาพักผ่อนและออกกำลังกาย อ้วน ผมร่วง หัวล้าน ซึ่งหลายคนยอมรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงนี้
2. ชีวิตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ด้วยวัยขนาดนี้ ถือว่าเป็นวัยที่ชีวิตน่าจะเริ่มอิ่มตัว เริ่มมั่นคง ประสบความสำเร็จทั้งชีวิตส่วนตัวและการงานแล้ว แต่ก็มีอีกหลายคนที่กลับรู้สึกว่าตัวเองยังห่างไกลเป้าหมายอีกมาก ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง ยังต้องนั่ง Coding อยู่แทนที่จะเป็น Project Manager เงินเดือนยังน้อยเมื่อเทียบกับสายงายและประสบการณ์ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดภาวะกดดัน เครียดและจิตตกได้
3. กังวลเกี่ยวกับความรู้ความสามารถของตนเอง
ด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเทคโนโลยีและภาษาคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย เชื่อว่าคน 30 อัพหลายคนอาจเริ่มต้นจาก Pascal แต่เด็กจบใหม่ยุคนี้เริ่มต้นจาก JAVA/.Net กันแล้ว ทำให้คนไอทีวัยกลางคนเริ่ม เครียดและวิตกกังวลว่า จะเรียนรู้หรือตามทันทักษะใหม่ๆ เหล่านี้ได้ไหม ความสามารถจะสู้เด็กรุ่นหลังได้หรือไม่ กลัวรุ่นน้องจะแซงเป็นหัวหน้า กลัวจะวางตัวไม่ถูก หรือ ร้ายแรงสุดคือ กลัวถูกให้ออกจากงาน เป็นต้น
4. รู้สึกได้ถึงบทบาทและความสำคัญของตัวเองที่ลดน้อยลง
เคยได้ยินไหมกับคำว่า “ยิ่งสูงยิ่งหนาว” คนเราตอนเริ่มทำงานมีเพื่อนร่วมงาน เพื่อนกินเพื่อนเที่ยวมากมาย แต่พอเริ่มอาวุโส เพื่อนก็เริ่มห่างหายลดน้อยลงไป ครั้นอยากจะทำตัวเฮฮาปาร์ตี้อย่างเมื่อก่อนก็ทำไม่ได้ เพราะต้องวางตัวให้เหมาะกับสถานภาพตัวเอง เทคโนโลยีที่เราไม่รู้ แต่รุ่นน้องกลับรู้มากกว่า ทำให้รู้สึกว่า มีคุณค่าในตัวเองลดลง และ รู้สึกเปล่าเปลี่ยวมากขึ้น
5. ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วชีวิตคืออะไร
โดยเมื่อถึงจุดหนึ่งของชีวิต ผู้ใหญ่อย่างเราๆ อาจจะมาเริ่มนั่งทบทวนความเป็นไปของตัวเอง ชีวิตที่ผ่านมา ไตร่ตรองว่าที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาค่อนชีวิต ยังไม่ก้าวหน้าเลย บางคนอาจเพิ่งมารู้สึกว่าเราเดินมาผิดทาง พลาดเป้าหมายมาเยอะแล้ว จะให้กลับไปเริ่มใหม่ก็ลำบากแล้ว บางคนที่ไม่เข้าใจความหมาย แก่นแท้ของชีวิต อาจทำให้เกิดความเครียด คิดลบคิดวนเวียน และไม่สามารถหลุดพ้นความคิดเหล่านั้นได้ เพราะ ยังไม่ได้คำตอบนั่นเอง
วิธีแก้ไข คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด Work-Life Balance เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ มีปัญหาก็ปรึกษาคนอื่น ซึ่งจะช่วยลดอาการด้านลบทั้งหลายได้มากพอสมควร แต่หากคนไอทีท่านใดที่คิดว่า งานที่ทำอยู่ไมได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นหรือมีความสุขเลย ลองหาที่ปรึกษาดูสิครับ ISM เรามี IT Consultant ที่ให้คำปรึกษาที่ดีในเรื่องงานของคุณได้
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) บริษัทเราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการย่างเข้าสู่ปีที่ 27 มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานที่ท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ ฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ามากมายกำลังรอคุณอยู่