เชื่อว่าคนในแวดวงไอทีหลายท่าน น่าจะเกี่ยวข้องหรือเคยทำงานประเภท Contract หรือ สัญญาจ้าง กันมาบ้าง เพราะมีหลายองค์กรเน้นทำงานเป็น Project ทำให้มีการจ้างงานคนไอทีเป็นแบบ Contract วันนี้เรามาดูกันว่า เจ้างาน Contract ที่ว่านี้ มันมีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง
ข้อดี
1. รายได้ค่อนข้างสูง
ด้วยเหตุที่งาน Contract นั้น มักจะไม่มีสวัสดิการจากบริษัท แต่สวัสดิการเหล่านั้นถูกทดแทนด้วยรายได้ ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้ว จะพบว่า พนักงานสัญญาจ้าง (Contractor) จะได้รับเงินเดือนที่ “สูงกว่า” พนักงานประจำ (Permanent) ดังนั้น ใครที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์/ไม่ค่อยสนใจสวัสดิการของบริษัท และอยากจะ Make Money ต้องการรายได้ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ลักษณะงาน Contract ก็ดูจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
2. เพิ่มทักษะใหม่ๆ ให้ตัวเองได้
ด้วยลักษณะงานที่มักจะเป็นแบบ Project ทำให้ Contractor หลายๆ คน มีโอกาสได้เรียนรู้ทักษะที่ใหม่และหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาษาที่เคยใช้อยู่แล้ว หรือภาษาใหม่ๆ ที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ ทำให้เพิ่มความสามารถของ Contractor ให้มีความรู้และทักษะที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการได้เรียนรู้ต่อยอดงาน และเพิ่มเติมทักษะที่หลากหลายให้ตนเองอีกด้วย
3. มีโอกาสได้เรียนรู้รูปแบบการทำงานกับบริษัทชั้นนำ/ข้ามชาติ
จะว่าไปแล้วองค์กรที่จ้างงานแบบ Contract มักจะเป็นองค์กรที่เป็นบริษัทใหญ่ มีชื่อเสียง หรือ เป็นบริษัทข้ามชาติ ดังนั้น คนไอทีที่ทำงาน Contract ก็จะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับองค์กรเหล่านี้ ซึ่งโดยทั่วไปมักมีระบบการทำงานที่ชัดเจน ในขณะเดียวกันก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับคนเก่งๆ มีความสามารถ หรือได้สื่อสารกับชาวต่างชาติอีกด้วย มันจะดีไหมหากทำงานที่ตนเองถนัดแล้วยังได้ทักษะอื่นๆ พ่วงมาด้วย ทั้งภาษาอังกฤษ(รวมทั้งอื่นๆ) การทำงานที่เป็นมืออาชีพ ซึ่งถือว่าเป็นกำไรที่ได้จากการทำงาน
4. มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด
เติบโตแบบก้าวกระโดดในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงจาก Junior ไป Manager ใน 2-3 ปี แต่เมื่อเทียบกับกรณีทั่วไปแล้ว คนที่ทำงานแบบ Contract “มีโอกาส” ที่จะเติบโตในสายอาชีพได้รวดเร็ว แล้วเพราะอะไรล่ะ? เพราะได้ทักษะใหม่ๆ ได้รู้จักหลากหลาย Project รวมทั้งได้เรียนรู้ระบบการทำงานกับองค์กรใหญ่ๆ หรือองค์กรข้ามชาติดังที่กล่าวมาแล้ว จึงทำให้คนไอทีที่เคยเป็น Contractor มีโอกาสที่เติบโตในสายอาชีพได้อย่างรวดเร็ว
5. มีช่องทางและโอกาสในการหางานที่สะดวกขึ้น
คนไอทีที่เคยทำงาน Contract จะพอทราบว่า หลายๆ คนมีโอกาสได้ปรับจาก Contractor ไปเป็น พนักงานประจำ เนื่องจากบริษัทได้เห็นฝีมือ/คุณสมบัติต่างๆ และทำงานกับองค์กรได้ดี บาง Project ก็เป็นลักษณะต่อสัญญากันไปเรื่อยๆ และระยะยาว หรือในกรณีบริษัทใช้บริการของ Recruitment Firm หลังจบ Project แล้ว Recruitment Firm ก็จะช่วยหางาน Project อื่นๆ ให้(ขึ้นกับความต้องการของคุณ)
ข้อเสีย
1. ระยะเวลาทำงานสั้นและข้อกำหนดสัญญาที่ผูกมัด
ส่วนใหญ่งาน Contract มักมีกำหนดเวลา เช่น 3 เดือน/6 เดือน/1 ปี บางกรณีคุณอาจไม่ได้ต่อสัญญา เนื่องจาก Project เสร็จแล้ว หรือคุณอาจทำงานไม่เข้าตาบริษัท ซึ่งมันอาจเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไปสำหรับหลายๆ คน รวมทั้งบางคนอาจเจอข้อกำหนดในสัญญาที่ห้ามยกเลิกก่อนกำหนด ต้องทำจบครบกำหนดในสัญญาเท่านั้น แต่บางที่ก็ไม่ได้บังคับในกรณีนี้ ขึ้นกับแต่ละแห่งด้วย
2. สวัสดิการ/โบนัส/วันลา ที่ไม่เท่าคนอื่น
อย่างที่กล่าวไว้ในข้อดีแล้ว เมื่อคุณทำงานเป็น Contractor โดยทั่วไปคุณจะได้รับแค่เงินเดือนและประกันสังคมเป็นหลัก พวกโบนัส/สวัสดิการต่างๆ จะถูกตัดไป วันลาหยุดต่างๆ จะได้น้อยกว่าพนักงานประจำและได้เท่าเดิมไปตลอด (แต่มันก็ถูกเพิ่มไปตัวเงินเดือนแทน) อยู่ที่ว่าคุณจะพอใจแบบใด
3. ไม่มีการ Training
งาน Contract ส่วนใหญ่มักจะรับคนที่พร้อมทำงานได้ทันที นั่นคือ คุณต้องมีทักษะและความสามารถพร้อมที่จะทำงานแล้วเท่านั้น มักไม่ค่อยรับแล้วนำไป Training ปูพื้นกันใหม่ (ยกเว้นบริษัทต้องการให้คุณทำ Project อื่น ก็อาจมีการ Training ให้)
4. เปลี่ยนสถานที่ทำงาน
งาน Contract ส่วนใหญ่ มักจะต้องไป On-site ตามสถานที่ทำงานที่ต้องรับผิดชอบ บาง Project นี้ทำที่นี่ อีก Project ทำที่โน่น คุณจะไม่ได้ทำในสถานที่เดิมๆ ไปตลอด ยกเว้นคุณได้ต่อสัญญาใน Project เดิมไปเรื่อยๆ หรือ Project นั้นไม่มีการย้ายสถานที่
ตอนนี้คุณคงได้เห็นข้อดี-ข้อเสีย ของงานประเภท Contract แล้ว จะว่าไปมันก็ไม่ได้ดีสุดๆ หรือเสียสุดๆ ไปซะทีเดียว มันขึ้นอยู่กับสไตล์ มุมมอง และความต้องการของคุณว่าคิดเห็นอย่างไร หวังว่าบทความนี้น่าจะช่วยเปิดมุมมองให้คุณ ได้นำข้อดี-เสียเหล่านี้ไปใช้ประกอบการพิจารณาเส้นทางอาชีพของคุณนะครับ
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 25 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่