Programmer มักจะก็ถูกสอนให้เขียน Code เพื่อทำให้สิ่งต่าง ๆ ทำงานได้ มือใหม่ส่วนใหญ่ก็มักจะเน้นที่ Output และหาก Code ของพวกเขาทำงานได้ดีก็ถือว่างานเสร็จสิ้น ซึ่งมักจะคิดและทำแบบนี้จนติดเป็นนิสัยและลืมคำนึงถึงประสิทธิของมัน และบทความนี้คุณ Shubham Pathania จะมาแนะนำ 5 เทคนิคง่าย ๆ เพื่อปรับปรุง Code ให้ดีขึ้น
1. ใช้เวลาให้เต็มที่กับการวิเคราะห์
Programmer ส่วนใหญ่มักจะรีบเขียน Code หลังจากดู Requirements เสร็จ พฤติกรรมแบบนี้พบได้บ่อยในมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาใน Software Industry
พวกเขามักเชื่อว่าการเขียน Code เป็นส่วนสำคัญของการแก้ปัญหา ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริงทั้งหมด ดังที่ Senior Developer คนหนึ่งของของคุณ Shubham เคยบอกว่า “จงใช้เวลา 70% ในการวิเคราะห์แล้วค่อยใช้เวลาที่เหลือในการเขียน Code”
วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการแก้ Bugs และเพิ่มประสิทธิภาพของ Code อีกด้วย คนส่วนใหญ่สามารถเขียน Code ด้วยการหาข้อมูงจาก Google แต่ Programmer ตัวจริงจะรู้วิธีทำการวิเคราะห์ที่เหมาะสมก่อนที่จะรีบเขียน Code
แนวทางปรับปรุง Code:
เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มทำงานอะไรก็ตาม ให้วิเคราะห์ Code ที่มีอยู่ก่อน ไล่ดู Code และ Debug Function การทำงานที่มีอยู่
จากนั้นให้คุณนึกถึง Solution ที่คุณจะสามารถเพิ่ม Features ของคุณโดยไม่ไปทำลาย Flow ของ Application เมื่อคุณทำเสร็จแล้ว ถึงจะเริ่มเขียน Code
2. มองหาวิธีที่หลากหลายในการแก้ปัญหา
Programmer ส่วนใหญ่มองหาวิธีแก้ปัญหา เมื่อพวกเขาเจอ Solution แล้ว พวกเขาจะย้ายไปสู่ปัญหาอื่น ๆ อย่างไรก็ตามการใช้เวลามากขึ้นในการหาวิธีที่หลากหลายในการแก้ปัญหา มีประโยชน์หลายอย่าง:
-
- ความคิดเชิงเชิงตรรกะของคุณ จะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
- คุณมีตัวเลือกที่หลากหลายเพื่อเลือกทางออกที่ดีที่สุด
- แนวทางของคุณในการแก้ปัญหาจะดีขึ้น
วิธีนี้จะช่วยให้คุณพัฒนา Critical Thinking ในขั้นตอนของการเขียน Program และ Programmer ที่ดีจะมี Solution ที่หลากหลายเพื่อให้สามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้โดยพิจารณาจาก Speed, Memory และปัจจัยอื่น ๆ
แนวทางปรับปรุง Code:
หากคุณไม่สามารถหาได้มากกว่า 1 Solution ก็ให้ค้นหาผ่านทาง Online แน่นอนว่า คุณจะได้พบแนวทางอื่น ๆ สำหรับปัญหาของคุณบน Platforms ต่าง ๆ เช่น StackOverflow และ CodeProject
ด้วยวิธีนี้ คุณจะพัฒนานิสัยในการมองหาวิธีที่หลากหลายสำหรับแก้ไขแต่ละปัญหาได้ดีขึ้น
3. อย่าสนใจแต่ Code ของตัวเองเพียงอย่างเดียว
เรื่องนี้เป็นจริงในกรณีของการเขียน Code คุณควรอ่าน Code ของคนอื่น และควรทำอย่างนั้นอยู่เสมอ
เราทุกคนมีสไตล์การเขียน Code ที่เป็นเอกลักษณ์ การอ่าน Code ของคนอื่นจะทำให้คุณได้รับข้อมูลในเชิงลึกที่เป็นประโยชน์มากขึ้น
สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมที่ใหญ่ขึ้นด้วย หากคุณเขียน Code ด้วยตัวเองอยู่เรื่อย ๆ คุณจะไม่คุ้นเคยกับส่วนอื่น ๆ ของ Application ที่คุณไม่ได้ใช้งาน
แนวทางปรับปรุง Code:
เมื่อคุณทำงานเสร็จแล้วให้เริ่มอ่าน Code ที่เขียนโดย Developer คนอื่น ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจกระบวนการคิดของพวกเขาและคุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Product ของคุณ
4. อย่าลืมที่จะ Test Code ของคุณ
Unit Test ถือเป็นสิ่งสำคัญกว่าที่ Developer จะคิด Programmer มักคิดว่าจุดประสงค์หลักของ Unit Test ก็คือ Code Coverage แต่นั่นไม่เป็นความจริง
Unit Test จะช่วยให้คุณสามารถกำจัด Code ในบรรทัดที่ไม่จำเป็นได้ มันจะช่วยปรับปรุง Code และประสิทธิภาพ Application โดยรวมของคุณ
แนวทางปรับปรุง Code:
ให้เขียน Unit Test Cases สำหรับ Module ของคุณอยู่เสมอ และพยายามทำให้มันครอบคลุม Code ให้มากถึง 90% และลบในส่วนที่ไม่จำเป็นออกในระหว่าง Process หากเป็นไปได้ ก็ให้พูดคุยกับ Developer คนอื่น ๆ เกี่ยวกับ Scenario ต่าง ๆ เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดในสิ่งที่สำคัญ ๆ ไป
5. Update ตัวเองก่อนจะ Update Code
หากคุณไม่ได้ Update Features เกี่ยวกับเทคโนโลยีล่าสุดอยู่เสมอ คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า Code ของคุณเป็นข้อมูลที่ Update ล่าสุด
สาเหตุที่ Software ส่วนใหญ่ใช้งานไม่ได้เมื่อเวลาผ่านไป ก็เป็นเพราะ Developer มักจะละเลยที่จะ Update Code เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ลองดู C# Code ที่ด้านล่างนี้:
ถ้าเป็นแนวทางเดิม เราจะตรวจสอบก่อนว่า Object นั้นเป็น Null หรือไม่ จากนั้นเราจะตรวจสอบว่า มีค่าอยู่ภายใน Object นั้นหรือไม่ หลังจากนั้นเราก็ Assign ค่านั้นให้กับตัวแปร
แต่หากเป็นแนวทางใหม่ เรากำลังใช้ C# Feature ใหม่ ซึ่งมีอยู่ใน Version 6.0 สิ่งนี้จะช่วยให้เราสืบค้น Object Properties ได้โดยตรง และในกรณีที่ Property เป็น Null แทนที่มันจะ Throw Null Reference Exception มันจะ Return ค่า Null กลับมาให้
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของวิธีที่เราสามารถลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ Code ของเราด้วย Features ใหม่ในภาษา Programming
แนวทางปรับปรุง Code:
ให้ติดตาม Blogs ต่าง ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี และอ่าน Documentation เกี่ยวกับ Features ใหม่ ๆ จากนั้นลองใช้ใน Project ส่วนตัวของคุณและถ้าเป็นไปได้ให้นำไปใช้ใน Project งานของคุณด้วย
ด้วยวิธีการนี้จะช่วยให้คุณ Update อยู่เสมอ และคุณสามารถทำให้ Code ของคุณมีประสิทธิภาพและทันสมัยอยู่เสมอ
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่
Source: https://medium.com/