#1 tech recruiter in thailand

คลาย 10 ข้อสงสัย เกี่ยวกับงาน Contract ของคนไอที

ปัจจุบัน การจ้างงานมีหลายรูปแบบ ซึ่งงานประเภท Contract ก็เป็นหนึ่งในนั้น เราจะเห็นว่ามีหลายองค์กรที่มีการว่าจ้างคนไอทีในรูปแบบ Contract และเชื่อว่าคงมีหลายคนที่อาจยังมีข้อสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับงาน Contract ซึ่งบทความนี้จะมาช่วย คลาย 10 ข้อสงสัย เกี่ยวกับงาน Contract ของคนไอที

1. บริษัทแบบใดที่มีการว่าจ้างพนักงานแบบ Contract บ้าง

โดยทั่วไปองค์กรที่มีการจ้างงานแบบ Contract มักจะเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่ มีชื่อเสียง หรือ เป็นบริษัทข้ามชาติ ดังนั้น คนไอทีที่ทำงานรูปแบบ Contract ก็จะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับองค์กรเหล่านี้ อีกทั้งองค์กรเหล่านัี้มักจะมีระบบการทำงานที่ชัดเจน ในขณะเดียวกันก็จะมีโอกาสร่วมงานกับคนเก่ง ๆ มีความสามารถ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนรู้จากคนเก่ง ๆ เรียนรู้รูปแบบการทำงาน ฝึกฝนการทำงานที่เป็นมืออาชีพ

2. รายได้ / โบนัส / สวัสดิการ / วันหยุด ต่างจากงานประจำหรือไม่

โดยธรรมชาติของงาน Contract นั้น มักจะไม่มีโบนัสให้ รวมทั้งสวัสดิการบางอย่างและวันหยุดที่ได้รับ ก็ไม่เท่ากับคนที่เป็นพนักงานประจำ แต่สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น จะถูกทดแทนด้วย “รายได้” ซึ่งหากเปรียบเทียบก็จะพบว่า พนักงานสัญญาจ้าง (Contractor) จะได้รับเงินเดือนที่ “สูงกว่า” พนักงานประจำ (Permanent)

ดังนั้น ใครที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์หรือไม่ค่อยสนใจในสวัสดิการของบริษัท และต้องการรายได้ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ลักษณะงาน Contract ก็ดูจะตอบโจทย์มากกว่างานประจำ ขณะเดียวกันก็มีบางองค์กรที่มีการให้โบนัส เพิ่มสวัสดิการบางอย่าง หรือวันหยุด ให้แก่พนักงาน Contract ในทีมเพื่อเป็นแรงจูงใจให้พนักงงานอยู่ทำงานจนครบตามระยะเวลาของสัญญา

3. มีโอกาสได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือไม่

จากที่กล่าวมาแล้วว่าองค์กรที่จ้างพนักงานแบบ Contract มักจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนมากมักจะใช้เทคโนโลยีที่มีความเสถียรและมีการใช้งานมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว อีกทั้งมักจะเป็นระบบที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อน การที่จะเปลี่ยนจากเทคโนโลยีที่ใช้งานอยู่ มาเป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอนั้น คงจะเป็นเรื่องใหญ่และคงทำได้ไม่ง่ายนัก ซึ่งแตกต่างจาก Tech Company ที่มักจะมีขนาดกลางหรือเล็ก ที่สามารถปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีไปตามต้องการของธุรกิจหรือตาม Trend ในขณะนั้นได้ง่ายและสะดวกกว่า

ดังนั้น คนไอทีที่ชอบเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ แล้วนำมาใช้กับงานของตนเองตามความชอบความสนใจ ก็คงจะเหมาะกับการทำงานในบริษัทขนาดกลางหรือเล็กมากกว่า แต่สำหรับคนชอบที่ชอบทำงานกับระบบขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน อย่างเช่น ระบบของธนาคาร ซึ่งมีการทำงานเป็นระบบและแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน หรือคนที่เคยทำงานในธุรกิจลักษณะนี้มาก่อน แล้วต้องการต่อยอดกับระบบที่ตนเองเคยทำหรือสนใจ ก็เหมาะกับการทำงาน Contract ในองค์กรขนาดใหญ่

4. ทำงาน Contract แล้วจะมีโอกาสได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ หรือได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคนต่างชาติหรือไม่

แน่นอนว่าส่วนใหญ่ การจ้างพนักงานแบบ Contract มักจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ บริษัทมีชื่อเสียง หรือบริษัทข้ามชาติ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ จะได้ร่วมงานกับคนต่างชาติ ดังนั้น คนไอทีที่พอจะมีทักษะภาษาอังกฤษ (รวมทั้งภาษาอื่น ๆ) อยู่บ้างและต้องการพัฒนาทักษะทางภาษาตนเอง รวมทั้งต้องการอยู่ในสภาพแวดล้อมของการทำงานที่ต้องใช้ภาษาต่างชาติ งาน Contract ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี

แต่งานบางตำแหน่งหรือบางองค์กรก็ไม่ได้ Require ว่า พนักงาน Contract จะต้องเก่งภาษาหรือมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีมากมาย อย่างน้อยขอให้มีทักษะการอ่านบ้างก็เพียงพอ ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานและองค์กรว่าต้องการมีคุณสมบัติแบบใด และความต้องการของผู้สมัครงานว่าต้องการทำงานในสิ่งแวดล้อมแบบใด

5. ระยะเวลาทำงานและข้อกำหนดต่าง ๆ ในสัญญาว่าจ้าง มีอะไรบ้าง

โดยทั่วไปเราจะพบว่างาน Contract จะมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน เช่น 3 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งในบางกรณีอาจมีคนไอทีที่ไม่ได้ต่อสัญญา เนื่องจาก Project เสร็จแล้ว หรือมีบางคนที่พอครบกำหนดสัญญาแล้ว ทางบริษัทไม่ขอต่อสัญญาเนื่องจากทำงานไม่เข้าตาหรือ Performance ไม่ถึงตามที่บริษัทต้องการ อีกทั้งในสัญญาของบางแห่งก็มีการระบุว่าห้ามยกเลิกก่อนกำหนด ต้องทำจบครบกำหนดตามระยะเวลาในสัญญาเท่านั้น

แต่บางบริษัทก็ไม่ได้บังคับในกรณีนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละแห่ง ดังนั้น คนที่จะทำงาน Contract นั้น จะต้องเข้าใจและรับทราบเงื่อนไขรวมทั้งข้อผูกพันต่าง ๆ ในสัญญา เราควรพิจารณาว่าคุณสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหนในกรณีที่คุณไม่ได้ต่อสัญญา หากคุณมั่นใจในความสามารถของตนเอง รวมทั้งรู้เป้าหมายว่าทำไมคุณถึงอยากทำงานประเภทนี้ เชื่อว่า งาน Contract ก็ไม่ได้น่ากลัวสำหรับคุณแต่อย่างใด

6. บริษัทที่ว่าจ้างมีการจัดเตรียม PC หรือ Laptop ให้หรือไม่

ในประเด็นนี้คงขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละองค์กร บางองค์กรก็เตรียม Laptop ไว้ให้พนักงานเพื่อใช้ในการทำงาน ซึ่งในกรณีนี้คงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับบางองค์กรที่ให้พนักงานใช้ Laptop ส่วนตัว ก็มักจะให้ค่าเสื่อมเพื่อเป็นการชดเชยที่นำ Laptop ส่วนตัวมาใช้ในการทำงาน โดยที่ค่าเสื่อมที่ได้รับ ก็คงแตกต่างกันไปตามโครงสร้างของแต่ละองค์กร ดังนั้น เราควรต้องพิจารณาว่า เราจะสามารถยอมรับในเงื่อนไขเหล่านี้ได้หรือไม่

7. โอกาสในการบรรจุเป็นพนักงานประจำหรือไม่

คนไอทีที่เคยทำงาน Contract มาก่อน คงพอจะทราบว่า มีหลายคนที่ได้รับโอกาสในการบรรจุเป็นพนักงานประจำของบริษัท หลังจากจบสัญญา เนื่องจากบริษัทได้เห็นฝีมือ รวมทั้งคุณสมบัติต่าง ๆ ของเรา และสามารถทำงานให้กับองค์กรได้เป็นอย่างดี บาง Project ก็เป็นลักษณะต่อสัญญากันไปเรื่อย ๆ ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น  หรือในกรณีที่บริษัทใช้บริการของ Recruitment Firm หลังจบ Project แล้ว ทาง Recruiter ก็จะช่วยหางานใน Project อื่น ๆ ให้กับพนักงานที่หมดสัญญาแล้ว

8. ต้องเปลี่ยน Site ในการทำงานมากน้อยแค่ไหน

ในกรณีนี้ก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของแต่ละบริษัท แต่โดยทั่วไปแล้วเมื่อเราทำงาน Contract เราจะต้องไปทำงาน On-site ตามสถานที่ทำงานที่กำหนดไว้ หาก Project นั้นไม่มีการย้ายสถานที่ทำงาน เราก็สามารถทำงานที่เดิมไปตลอด แต่บางบริษัทอาจมีเงื่อนไขว่า อาจต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงานบ้างในบางครั้ง เช่น ไปประจำตามสาขาหรือสำนักงานย่อยอื่น ๆ ด้วย ดังนั้น กรณีที่เราไม่สะดวกในการเดินทางหรือไม่ชอบเปลี่ยน Site ในการทำงาน ก็ควรสอบถามบริษัทในประเด็นนี้ด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง

9. คนทำงาน Contract จะถูกมองว่าเป็นคนประเภทเปลี่ยนงานบ่อยหรือไม่

จากที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธรรมชาติของงาน Contract จะมีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ดังนั้น หากรายละเอียดใน Resume ของเรา มีการเปลี่ยนงานบ่อยกว่าคนทั่วไป แต่ด้วยลักษณะของงานที่เป็น Contract ในเบื้องต้นก็พอเข้าใจได้ และเราก็สามารถให้เหตุผลที่เหมาะสมได้ เช่น Project จบแล้ว เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เราควรต้องมีความรู้หรือทักษะที่เพิ่มมากขึ้นจากการทำงานจริง ๆ เพราะผู้สัมภาษณ์คงมีวิธีการวัดทักษะหรือความสามารถของเราด้วยเช่นกัน มิฉะนั้นก็คงจะถูกมองว่า เราแค่เปลี่ยนงานบ่อยเพื่อ Up เงินเดือนเพียงอย่างเดียว

10. คนทำงาน Contract ต้องทำงานมากกว่า คนที่เป็นพนักงานประจำหรือไม่

ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน Contract หรือพนักงานประจำ ล้วนมีหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ชัดเจนของแต่ละตำแหน่ง ซึ่งอันที่จริง เราสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบที่เราจะต้องทำเสียให้ชัดเจนตั้งแต่ขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน เพื่อที่เราจะได้ทราบว่า เราต้องทำอะไรและมีบทบาทหน้าที่อะไรบ้างในการทำงาน หากเห็นว่าหน้าที่ความรับผิดชอบเหล่านั้นไม่เหมาะสม เราก็สามารถเจรจาต่อรอง หรือไม่ต้องตอบรับข้อเสนอจากบริษัทก็เป็นสิทธิของเรา

เชื่อว่าบทความนี้ คงจะทำให้คุณได้ทราบรายละเอียดของงานประเภท Contract มากขึ้น และหวังว่าบทความนี้น่าจะช่วยเปิดมุมมองให้คุณได้เห็นและนำรายละเอียดเหล่านี้ไปใช้ประกอบการพิจารณาในเส้นทางอาชีพของคุณ

ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการมา 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย

หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่

th