#1 tech recruiter in thailand

ไม่ต้อง “รู้สึกผิด” เมื่อคิดจะลาออก

สำหรับคนไอทีหลายท่าน ที่กำลังวางแผนว่า จะลาออกจากที่ทำงานเดิม แต่อีกใจก็กำลัง รู้สึกว่า เรากำลังทำผิดกับ หัวหน้างานหรือบริษัทอยู่เหรือเปล่า เพราะถ้าเราออกงานอาจจะไปตกอยู่กับหัวหน้าหรือเพื่อนสนิทเรา หรือ อาจจะคิดว่าบริษัทเคยให้โอกาสดีๆ กับเราหลายอย่าง ทั้งส่งไป Training ออกค่าสอบ IT Certificate ส่งไปดูงาน หัวหน้างานก็ใจดี สอนงานเราด้วยความตั้งใจ เป็นต้น ถ้าเราเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นแล้ว จะทำอย่างไรดีที่จะลดความ “รู้สึกผิด” เหล่านั้นไปได้บ้าง วันนี้ทีมงาน ISM มีวิธีแก้ไขมาบอกกันครับ

1. ไม่ต้องไปต่อต้านความรู้สึกผิดนั้น

ถ้าคุณกำลังเกิดความรู้สึกผิด ไม่ว่าจะต่อหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน หรือบริษัทก็แล้วแต่ คุณก็ไม่ต้องไปห้ามความคิดตัวเองมากนัก ถ้ายิ่งไปต่อต้านคุณจะยิ่งเครียดและกังวลใจเปล่าๆ อาจลองปรับเปลี่ยนมุมมอง เช่น หัวหน้าเราก็เคยเป็นลูกน้องที่บริษัทอื่นมาก่อน เพื่อนร่วมงานของเราก็เช่นกัน ตอนเราเข้ามาก็มีคนเก่าเคยลาออกไป มันเป็นเรื่องธรรมดาของการหมุนเวียนคนทำงานในโลกธุรกิจ ลองคิดแบบนี้สิครับแล้วคุณอาจจะสบายใจขึ้น อันที่จริงการที่คุณรู้สึกแบบนี้ มันแสดงถึงคุณแคร์คนรอบข้างและเอาใจเขามาใส่ใจเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ

2. พิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้อยากเปลี่ยนงาน

ก่อนที่คุณคิดจะเปลี่ยนงานนั้น นั่นหมายถึง ที่ทำงานปัจจุบันน่าจะมีปัจจัยบางอย่างที่ไม่ตอบสนองต่อ เป้าหมายหรือความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Career Path, Work-Life Balance, Benefit หรือเรื่องส่วนตัวก็แล้วแต่ นั่นคือ ”สาเหตุหลัก” ที่ทำให้คุณคิดอยากจะลาออกตั้งแต่ต้น ต้องถามตัวเองว่า ถ้าเรายังอยู่ที่ทำงานนี้ต่อเราจะรู้สึกมีความสุขเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้ามี ก็อยู่ต่อ ถ้าไม่ได่รู้สึกมีความสุข การเปลี่ยนงานก็คือทางออกที่ดีที่สุด

3. ไม่มี “บุญคุณ” (ที่แท้จริง) ในโลกของธุรกิจ

หลายเรื่องที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดวนเวียนอยู่จนทำให้เกิดความรู้สึกผิด ก็คือเรื่องของ “บุญคุณ” ซึ่งมันค่อนข้างจะฝังอยู่ในความคิดของคนไทยส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพียงแต่คุณต้องทำความเข้าใจกับมันให้มากขึ้นมากกว่า เพราะในโลกธุรกิจถึงแม้ หัวหน้าจะสนับสนุนโดยส่งคุณไป Training ทักษะ IT ต่างๆ หรือบริษัทออกค่าใช้จ่ายในการไปสอบ IT Certificate ก็แล้วแต่ ก็เพื่อจะได้ให้คุณนำความรู้เหล่านั้นมาพัฒนาธุรกิจของบริษัทให้ก้าวหน้าขึ้นอยู่ดี มันคือการแลกเปลี่ยน แต่เป็น การแลกเปลี่ยนแบบ Win-Win นั่นเอง คือ คุณได้ความรู้มีทักษะเพิ่ม ธุรกิจของบริษัทก็เติบโตขึ้น นั่นเอง

4. เราลาออกไปบริษัทหาคนมาแทนเราได้เสมอ

หากคุณกังวลว่า หากคุณลาออกไปแล้ว จะมีคนมารับผิดชอบงานแทนคุณหรือไม่ จะบอกให้ว่า คุณไม่ต้องกังวลให้มากมาย เพราะในที่สุดบริษัท เขาก็หาคนแทนคุณจนได้ แต่จะ ช้า/เร็ว ยาก/ง่าย เท่านั้นเอง ถ้าอยากช่วยหัวหน้าหรือบริษัท ก็อาจจะลองถามไถ่เพื่อนๆ ช่วยหาคนมาแทนอีกแรง ก็ถือว่าคุณได้พยายามช่วยบริษัทแล้ว และควรเคลียร์งานของคุณให้เรียบร้อยก่อนจะลาออกก็แล้วกัน

5. นึกถึงความต้องการ/เป้าหมายของเราเป็นหลัก

ลองย้อนกลับไปในขณะทำงานดูว่า หัวหน้า/บริษัท ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ แล้วคุณก็ต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น ใช่หรือไม่? ตัวคุณเองก็เช่นกัน ย่อมมีเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังนั้น ในการทำงานหรือใช้ชีวิตก็ตาม คุณควรยึดเป้าหมายชีวิตของคุณเป็นที่ตั้ง แล้วเดินตามเส้นทางเพื่อที่จะไปยังเป้าหมายนั้นเป็นหลัก เพราะไม่มีบริษัทไหนที่จะรับผิดชอบเป้าหมายชีวิตของคุณได้ นอกจากตัวคุณเอง

ถ้าตลอดช่วงการทำงานคุณมีความรับผิดชอบ ทำหน้าที่ตัวเองได้เป็นอย่างดี ก็ถือเป็นการ ตอบแทนบริษัทแล้ว ก่อนลาออกไปหากมี Coding โปรแกรม/โปรเจคงานอะไรค้างอยู่ ก็รีบทำให้เสร็จ(แต่ยังคงมีคุณภาพเช่นเดิม) มีอะไรช่วย Support ให้ไอทีคนใหม่ที่จะมาดูแลได้เรียนรู้อย่างสะดวกขึ้นก็ให้ทำ เช่น ทำ Manual ของโปรแกรม/โปรเจคงานที่คุณทำไว้ หรือมีคำแนะนำต่างๆ ก็ List รายการออกมาเพื่อส่งต่อให้คนอื่น อย่าทิ้งภาระให้คนที่จะมาแทนคุณ  ให้ถือคติที่ว่า “แม้ลาออกไป ก็อย่าทำให้คนตำหนิลับหลังได้” แค่นี้ก็ถือว่า คุณได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดต่อหัวหน้างานและบริษัทแล้ว

ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) บริษัทเราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการย่างเข้าสู่ปีที่ 27 มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานที่ท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ ฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ามากมายกำลังรอคุณอยู่

th