See the original English version of this article here

Software Engineer ทุกคนต้องเผชิญกับความท้าทายที่อันตรายยิ่งกว่า Bug ในการเขียน Code หรือระบบล่ม นับเป็นภัยคุกคามที่มองไม่เห็น ซึ่งจะค่อย ๆ กัดกร่อนศักยภาพในอาชีพการทำงาน จำกัดการเติบโตในอาชีพการงาน และเปลี่ยน Developer ที่มีความสามารถพิเศษให้กลายเป็นเพียงคนงานด้านเทคโนโลยีที่ไร้ค่า มารู้จักภัยเงียบนี้กันกับบทความ ภัยเงียบทำลายอาชีพ ที่ Software Developer ทุกคนควรรู้
โดยสามารถเรียกสิ่งนี้ว่า “Framework Dependency Syndrome” ซึ่งเป็นภาวะที่ทำลายอาชีพการทำงาน โดยทำให้ Engineer ที่มีความสามารถกลายมาเป็นแค่ช่างเทคนิคเขียน Code แทนที่จะเป็นผู้แก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง
ความเชื่อผิด ๆ: ความเชี่ยวชาญ = โอกาสในการจ้างงาน
Developer ส่วนใหญ่มักเชื่อว่าการเชี่ยวชาญ Framework หรือเทคโนโลยีเฉพาะนั้น จะสามารถรับประกันความมั่นคงของงานได้ ซึ่งความจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้นเลย ขอแบ่งปันความจริงอันน่าตกใจ: อันตรายที่แท้จริง
เมื่อคุณเริ่มพึ่งพา Framework เพียงอันเดียวมากเกินไป คุณก็กำลังสร้างอาชีพของคุณบนทางตัน เนื่องจากเทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ในปี 2023 วงจรชีวิตโดยเฉลี่ยของ Framework ยอดนิยม อย่าง JavaScript อยู่ที่ประมาณ 18 – 24 เดือน สิ่งที่ดูเหมือนล้ำสมัยในวันนี้ อาจกลายเป็น Code ที่ล้าสมัยในวันพรุ่งนี้ React, Angular หรือ Vue เป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่คำจำกัดความของอาชีพ
ผลกระทบต่อโลกแห่งความเป็นจริง:
- 62% ของ Developer ที่เชี่ยวชาญเฉพาะใน Framework เดียวประสบกับปัญหาการหยุดนิ่งในอาชีพ
- บริษัทต่าง ๆ กำลังมองหา Engineer ที่มีความสามารถในการปรับตัวมากขึ้น ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้าน Framework
- ระยะเวลาการทำงานโดยเฉลี่ยของ Developer ที่พึ่งพา Framework เฉพาะ มักจะต้องฝึกอบรมใหม่หรือเพิ่มทักษะในทุก ๆ 5 – 2 ปี
กับดักทางจิตวิทยาของการเสพติด Framework
ภาพลวงตาของ Comfort Zone ลองนึกภาพว่าคุณเป็น React Developer ที่สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนได้แม้กำลังหลับตา คุณรู้จักทุกจุดที่สำคัญและเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพทุกประการ คุณรู้สึกว่าตัวเองเชียวชาญเหนือใคร แต่การรับรู้ถึงความพ่ายแพ้นี้ คือจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ
กลไกทางจิตวิทยาในการทำงาน:
- อคติในการยืนยัน: คุณแสวงหาข้อมูลที่ยืนยันทักษะที่มีอยู่ของคุณ
- Dunning-Kruger Effect: ความรู้ที่จำกัดสร้างภาพลวงตาของความเชี่ยวชาญ
- Technological Stockholm Syndrome: คุณมีความผูกพันทางอารมณ์กับเทคโนโลยี ที่จำกัดการเติบโตของคุณ
*Dunning-Kruger Effect เป็นความรู้สึกภายในจิตใจ ที่คิดอยู่เสมอว่า “ตัวเองเก่งและมีความสามารถมาก” ทั้ง ๆ ที่มันอาจจะยังไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งตรงกันข้ามกับ คำว่า “Impostor Syndrome” หมายถึงคนเก่ง ที่ชอบคิดว่าตัวเองไม่เก่ง
แก่นแท้ของ Software Engineering
Software Engineering ที่แท้จริงไม่ได้เกี่ยวกับการรู้จัก Framework แต่เกี่ยวกับ:
การคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking)
- การแบ่งย่อยปัญหาที่ซับซ้อน
- การออกแบบ Solution ที่มีประสิทธิภาพและปรับขนาดได้
- การทำความเข้าใจประสิทธิภาพ ของอัลกอริทึม
Systems Perspective (มุมมองเชิงระบบ)
- การมองเห็นและเข้าใจว่า Component ต่าง ๆ ส่งผลต่อภาพรวมอย่างไร
- การทำความเข้าใจว่าเทคโนโลยีต่าง ๆ โต้ตอบกันอย่างไร
- การคิดออกแบบสถาปัตยกรรม
Continuous Learning Mindset (แนวคิดการเรียนรู้ต่อเนื่อง)
- การเรียนรู้ทักษะอย่างรวดเร็ว
- การแก้ปัญหา โดยไม่คำนึงถึงเทคโนโลยี
- ความอยากรู้ทางปัญญา
เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของ Crafting-Code
ในช่วงเริ่มต้นอาชีพการทำงาน เขาเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ ด้าน React” ซึ่งเขาสามารถสร้าง Application ที่น่าทึ่งได้เร็วกว่าใคร ๆ
แต่ในระหว่างการปรับโครงสร้างใหม่ของบริษัทใหญ่ เขาได้ค้นพบความจริงอันโหดร้าย: ทักษะเฉพาะทางของเขากลับกลายเป็นภาระของบริษัท
จุดเปลี่ยนของชีวิต:
- ไม่มีงานในช่วงที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง
- ตระหนักได้ว่าทักษะถูกจำกัด
- มุ่งมั่นที่จะเป็น Software Engineer ตัวจริง ไม่ใช่แค่ช่างเทคนิคด้าน Framework
กลยุทธ์เชิงปฏิบัติเพื่อความยืดหยุ่นในการทำงาน: กฎการเรียนรู้ 70–20–10
70%: หลักการพื้นฐานของวิทยาการคอมพิวเตอร์
- Algorithms
- Data Structures
- System Design
- Performance Optimization
20%: เปิดรับเทคโนโลยีอย่างแพร่หลาย
- รูปแบบการเขียน Program หลายแบบ
- ตระกูลภาษาที่แตกต่างกัน
- รูปแบบสถาปัตยกรรม
10%: การเจาะลึก Framework และ เทคโนโลยีปัจจุบัน
(Roadmap สำหรับการพัฒนาทักษะ ที่สามารถดำเนินการได้)
- การเพิ่มพูนความรู้พื้นฐาน
- เชี่ยวชาญอย่างน้อย 2 หลักการ ในการเขียน Program
- เข้าใจ Low-level System Interactions
- เรียนรู้ทฤษฎีการคำนวณ
การกระจายความเสี่ยงทางเทคโนโลยี
- เรียนรู้ภาษาจากตระกูลต่าง ๆ
- Functional (Haskell, Scala)
- Object-Oriented (Java, C++)
- Scripting (Python, Ruby)
- Systems Programming (Rust, Go)
การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา
- เข้าร่วมการแข่งขันเขียน Code
- มีส่วนร่วมใน Open-source Project
- สร้าง Project ที่แก้ไขปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง
- เข้าร่วม Ideathon
การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
- จัดสรรเวลา 5 -10 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ เพื่อพัฒนาทักษะ
- อ่านเอกสารงานวิจัย
- เข้าร่วมการประชุมทางเทคนิค
- เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้
เหตุใดบริษัทต่าง ๆ จึงต้องการ Engineer ที่มีความสามารถในการปรับตัว
ข้อมูลเชิงลึกจากการวิจัย:
- Engineer ที่ปรับตัวได้ มีคุณค่ามากกว่า 3 เท่า
- ผู้แก้ปัญหาที่ไม่ยึดติดกับเทคโนโลยี ได้รับเงินเดือนสูงกว่า 40 – 60%
- ผู้ที่เรียนรู้ได้เร็ว จะมีความสำคัญมากกว่า ผู้เชี่ยวชาญด้าน Framework
สัญญาณเตือนของการพึ่งพา Framework
การสังเกตว่าคุณติดอยู่ในกับดักหรือไม่?
- คุณสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยเทคโนโลยีเพียงชนิดเดียวเท่านั้น
- Resume ของคุณ ระบุ Framework แทนที่จะเป็นความสำเร็จ
- คุณมีปัญหาในการอธิบายหลักการพื้นฐาน
- คุณรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ
กรอบความคิด เพื่อความสำเร็จ
“เป็นนักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ช่างเทคนิค”
- เข้าใจเหตุผล ไม่ใช่แค่เพียงวิธีการ
- ตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาที่มีอยู่
- ทดลองอย่างต่อเนื่อง
มีความถ่อมตนทางสติปัญญา
- ยอมรับว่าความรู้ปัจจุบันของคุณมีจำกัด
- อย่าหยุดที่จะอยากรู้อยากเห็น
- จงเต็มใจที่จะแยกแยะความเข้าใจที่มีอยู่ของคุณ
อาชีพของคุณ ทางเลือกของคุณ
ความแตกต่างระหว่าง Software Engineer ที่ดีและยอดเยี่ยม ไม่ได้อยู่ที่จำนวน Framework ที่พวกเขารู้จัก แต่เป็นความสามารถในการคิด ปรับตัว และแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน
Engineer ที่สามารถปรับตัวได้นั้น สามารถให้คุณค่ามากกว่าอย่างมาก:
- ส่งผลให้เงินเดือนสูงขึ้น 40 – 60%
- ได้รับความสำคัญในการจ้างงาน
- สามารถปรับตัวให้เข้ากับภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
รายการการดำเนินการของคุณ:
- ตรวจสอบทักษะปัจจุบันของคุณ
- ระบุช่องว่างความรู้
- สร้างแผนการเรียนรู้ที่ตั้งใจ
ลงทุนในปัจจัยพื้นฐาน
- ศึกษาหลักการของวิทยาการคอมพิวเตอร์
- เรียนรู้รูปแบบการเขียน Program ที่หลากหลาย
สร้าง Project ที่ท้าทาย
- ไม่เพียงแต่ดู Tutorial เท่านั้น
- แก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนในโลกแห่งความเป็นจริง
- นำอัลกอริทึมมาใช้ตั้งแต่เริ่มต้น
โลกของเทคโนโลยีไม่ได้ให้รางวัลแก่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ให้รางวัลแก่ผู้ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ รู้จักปรับตัว และใฝ่รู้ ซึ่งสามารถคิดนอกกรอบแนวโน้มทางเทคโนโลยีในปัจจุบันได้
คุณมี 2 ทางเลือก:
- ยังคงเป็น Developer ที่พึ่งพา Framework และคอยตามเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- กลายเป็น Software Engineer ตัวจริงที่สามารถปรับตัว แก้ไขปัญหา และสร้างมูลค่าที่ยั่งยืน
ทางเลือกเป็นของคุณ จงจำไว้ว่า เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง แต่ทักษะพื้นฐานยังคงอยู่
สุดท้ายนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไป แต่หลักการสำคัญของความสามารถในการปรับตัวและการเรียนรู้ต่อเนื่องยังคงเป็นเรื่องสำคัญ
และทั้งหมดนี้ก็คือ ภัยเงียบทำลายอาชีพ ที่ Software Developer ทุกคนควรรู้
เมื่อ หางาน IT ให้ ISM Technology Recruitment เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เพื่อให้คุณได้ “ชีวิตการทำงานในแบบที่คุณต้องการ” เพียงส่ง Resume มาที่นี่
ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ ได้เปิดทำการมาแล้วกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย
Source: https://medium.com/