#1 tech recruiter in thailand

APAC Career Guide สำหรับสายงาน Cloud Computing

See the original English version of this article here

นอกจากการมีความชำนาญด้าน Engineering และมี Certifications ต่าง ๆ แล้ว Cloud Professional ที่บริษัทต้องการนั้น ควรอยากเรียนรู้ตลอดเวลา และมี Soft skills เพื่อประสบความสำเร็จในแวดวง Cloud Computing ที่กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เรามาดูกันว่า APAC Career Guide สำหรับสายงาน Cloud Computing ในบทความนี้มีอะไรบ้าง

ในฐานะที่เป็น Executive Director ของ Cloud Engineering & Services ที่ DBS Bank ประเทศสิงคโปร์ คุณ Koh Jit Soon ได้ดูแลทีม Engineers ที่ Run Production Services สำหรับการ Deploy เทคโนโลยี Cloud ของ Bank ลงบน Private และ Public Cloud Environments

ซึ่งรวมถึง DevOps Engineers ที่ Support เกี่ยวกับ On-Premise Private Cloud Infrastructure ใน DBS Bank ไม่ว่าจะเป็นการ Implementing และ Operating Open Systems รวมถึง Public Cloud Engineers ที่จะคอย Monitor และจัดการการใช้ Public Cloud ของธนาคาร

ตอนที่คุณ Koh เริ่มทำงานที่ DBS ในปี 2017 ธนาคารเพิ่งจะเริ่มเพิ่มการใช้ Public Cloud Services ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Digital Transformation อีก 4 ปีต่อมา การใช้งาน Cloud ที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ Cloud Computing Experts อย่างคุณ Koh ก็เริ่มขาดแคลนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC)

“เมื่อพิจารณาดูแล้ว Cloud Computing จำเป็นต้องมี Skill ย่อย ๆ เพิ่มเติม ปัญหาการขาดแคลนจึงค่อนข้างชัดเจนมากขึ้น” คุณ Tejas Patel – Managing Director ของ Accenture กล่าว

“เมื่อคุณดูยอดอัตราของ Cloud Deployment ที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ก็เป็นที่ชัดเจนว่ าเราต้องการ Cloud Computing Professionals มากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Post-Deployment จะมีความจำเป็นในการ Optimise Cloud Infrastructure และการลงทุนมากขึ้นไปเรื่อย ๆ”

“อย่างในออสเตรเลียเอง ก็มีหลายองค์กรที่ได้นำ Cloud มาใช้เพื่อรองรับการแข่งขันและเตรียมพร้อมสำหรับความไม่แน่นอนในอนาคต ส่งผลให้ขาดแคลน “Talent” โดยเฉพาะ Senior และ Principal Roles” คุณ Tim Hope – Chief Technology Officer ของ Cloud Services Consulting Firm Versent กล่าว และสำหรับ Junior Cloud Roles แล้ว การขาดการส่งเสริมในหลักสูตร Programmes for Technology ก็มีส่วนทำให้เกิดการขาดแคลน Talent เช่นกัน

คนส่วนใหญ่ที่ต้องการเข้าสู่แวดวง Cloud มักจะจบ Computer Science หรือมีอย่างน้อย 1 Certifications จาก Public Cloud Providers เจ้าใหญ่ ๆ เช่น Amazon Web Services (AWS), Google Cloud หรือ Microsoft Azure การมี Certifications สำหรับ Cloud Platform มากกว่าหนึ่ง Platform จะมีประโยชน์อย่างมากในกรณีนายจ้างกำลังมองหาการใช้ Multicloud Model

“เราจะสังเกตเห็นว่า ลูกค้ามีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมากที่จะได้เห็น Cloud Professionals ที่มาพร้อมกับ Skills ที่จำเป็นในการจัดการ Cloud Security, Blockchain, Automation, DevOps Engineering และ Machine Learning & Artificial Intelligence” คุณ Patel กล่าว

การมี Portfolio ที่แสดงถึง Certification พื้นฐานและ Cloud Skills ในเชิงลึก จะทำให้มีความ Professional และกลายเป็นที่น่าดึงดูดสำหรับนายจ้าง การแสดงความกระตือรือร้นที่จะ Upskill  ก็มีส่วนช่วยในการได้งานเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ จะมองหาการ Reskill และ Upskill ให้กับพนักงาน IT อย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก Cloud Priorities จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเวลาผ่านไป

คุณ Koh กล่าวว่า Cloud Platforms ที่ต่างกัน ก็มักจะทำงานบน Technologies ที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ดังนั้น การหา Talents ที่รอบรู้ใน Cloud Environments ต่าง ๆ นั้น เป็นเรื่องที่ท้าทาย “เมื่อเรา Integrate Services จาก Cloud Platforms ต่าง ๆ เข้ากับ Ecosystem ของเรา เราจำเป็นต้อง Cross-Train ความสามารถของเรามากขึ้น เพื่อทำความคุ้นเคยกับ Platforms ใหม่ ๆ” คุณ Koh กล่าว

Top Cloud Skills

ว่าแต่ Top Cloud Skills ที่กำลังเป็นที่ต้องการ คืออะไร?

Cloud Security, cloud Architecture และ Cloud Software Engineering Skills ดูจะเป็นที่ต้องการมากที่สุด

Cloud Security: เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Threat Detection, Response และ Prevention ของ Cyber Incidents ภายในองค์กร โดยที่ Network Security, Threat Intelligence และ Security Testing ถือเป็นความสามารถและทักษะที่สำคัญ เนื่องจาก Single Security Breach มีโอกาสที่จะเปิดเผยข้อมูลลูกค้า ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาอันมีค่า และสามารถทำลายชื่อเสียงของบริษัทได้อย่างถาวร

Cloud Aarchitecture: เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ความสามารถในการ Architect และ Operate Virtual Infrastructure, Platforms และ Apps เพื่อปรับปรุงในเรื่อง Speed และ Agility และเมื่อองค์กรต่าง ๆ หันไปปรับใช้ Multicloud Models ความเชี่ยวชาญในเรื่อง Key Cloud Service Providers และ Service Models จึงถือเป็นกุญแจสำคัญ

Cloud Software Engineering: เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ความเชี่ยวชาญในการ Design, Development, Release และ Maintenance ของ Cloud-Native Applications ซึ่ง Engineers จะต้องมี Skills ใน Programming Languages เช่น Python และ Java, Microservices, Application Programming Interfaces และ Container Technologies อย่าง Docker และ Kubernetes

คุณ Jay Jenkins – Technology Strategist and Evangelist ที่ Google Cloud ใน Asia-Pacific กล่าวว่า Python เป็น Skill ที่ดีที่ควรมี เพราะมันใช้สำหรับ Data Processing และ Analytics ตลอดจน Machine Learning จนถึงตอนนี้ Software Libraries ใหม่ ๆ ยังคงถูกสร้างขึ้น และมี Developer Community เกิดขึ้นมากมาย สำหรับองค์กรแล้ว Java ยังคงเป็นหนึ่งในภาษา ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

“ด้วย Applications ที่ย้ายไปยัง Microservices Architectures นี่คือเวลาสำหรับ Polyglot” คุณ Jenkins กล่าว ทีมสามารถตัดสินใจได้ว่าภาษาใดเหมาะสมที่สุดสำหรับ Service ที่สร้างขึ้นพร้อมกับ Skills ของทีม ดังนั้น Service Interface จึงช่วยให้ทีม Application ได้รับประโยชน์จาก Service นั้น ไม่ว่าจะเขียนด้วยภาษาใดก็ตาม

ส่วนคุณ Hope ของ Versent กล่าวว่า Data Skills ยังเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับ Cloud Computing Roles คนที่มีพื้นฐาน Data Engineering, Modelling และ Architecture และสามารถสร้างลงใน Software-as-a-Service (SaaS) หรือ Platform-as-a-Service (PaaS) Technologies ได้โดยตรงนั้น จะเป็นที่จับตามมองเป็นอย่างมาก

Certifications to Consider

Cloud Suppliers รายใหญ่ มักมี Certification Programmes Spanning ที่แตกต่างกัน ในกรณีของ AWS มีตั้งแต่ Competency Levels ไปจนถึง Associate และ Professional Certifications ในส่วน Google Cloud ก็มีการนำเสนอ Domain Specialisations เช่น Machine Learning และ Data Engineering นอกเหนือจาก Cloud Engineer และ Cloud Architect Certifications

คุณ Jenkins กล่าวว่า Cloud Architecture Certifications เป็นที่นิยมมากที่สุดในแวดวง Developers และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นในสาย Cloud

“จากจุดนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเพิ่มความเป็น Specialise” คุณ Jenkins กล่าว “นายจ้างกำลังมองหา Specialisations ในเรื่อง Data, Security, Infrastructure และ Networking การได้รับ Certifications ที่สอดคล้องกับ Specialisations เหล่านั้น จะทำให้คุณเป็นที่ดึงดูดสำหรับนายจ้างได้มากยิ่งขึ้น”

คุณ Hope ของ Versent ก็เรียกร้องให้ Cloud Professionals เลือก Certifications ในอุตสาหกรรมที่พวกเขาต้องการทำงาน “สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า ธุรกิจใช้ หรือทำงานกับ Vendor รายใด และข้อเสนอขององค์กรคืออะไร” คุณ Hope กล่าว

คุณ Jenkins ยังกล่าวอีกว่า อุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น Retail และ Finance กำลังใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์เพื่อให้ได้ Insights เกี่ยวกับ Customer Churn และ Investments ในขณะที่บริษัทผู้ผลิต กำลังมองหาการ Leveraging Data สำหรับ Supply Chain Management และ Predictive Maintenance

Technology Suppliers บางเจ้า ได้เผยแพร่เงินเดือนที่จะได้รับ สำหรับคนที่มี Certifications ต่าง ๆ แต่คุณ Patel ก็เตือนว่า อย่าใช้ข้อมูลเงินเดือนในการพิจารณาว่า ควรมี Certifications แบบไหน เพราะอาจเป็นการมองในระยะสั้นเกินไป

Career Pathways

คุณ Hope ได้กล่าวถึงเกี่ยวกับ 2 Career Paths ของ Cloud โดย Career Path แรกคือ Application Development ซึ่งจะไปเป็น Software Engineering แล้วจึงเข้าสู่ DevOps และ Cloud Computing

Career Path ที่สอง คือ Infrastructure Engineers ที่ทำเกี่ยวกับ Software Automation และ Cloud Principles และจะมีบทบาทในส่วนของ Cloud Technology อีกด้วย

แต่สำหรับคุณ Patel แห่ง Accenture กล่าวว่า ไม่มี Career Path ที่แท้จริงสำหรับ Cloud Computing เพราะว่ามันเติบโตก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

“วันนี้ Cloud Computing อยู่ในการพิจารณา C-Suite และการเปลี่ยนองค์กรให้เป็น ‘Cloud-first’  ซึ่งทำให้โอกาสในสาขานี้ไม่มีที่สิ้นสุด” เขากล่าว “ในการเริ่มต้นอาชีพของคุณในสาขานี้ ปีแรกของคุณ ควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา Knowledge Base ในวงกว้าง สำหรับ Cloud Technology”

คุณ Patel สนับสนุนให้ผู้ที่อยากเข้าสู่แวดวงนี้ ใช้ทุกโอกาสในการพบปะและทำงานร่วมกับ Cloud Practitioners ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อทำความเข้าใจว่า Cloud Solutions ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นอย่างไร

“คิดและสำรวจว่า Cloud Technologies ถูก Integrate เข้ากับระบบอื่น ๆ ได้อย่างไร Flexibility ที่นำเสนอเมื่อเทียบกับ On-Premise Solutions, Common Deployment & Adoption Challenges และ Cloud Technology มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร” เขากล่าว

“เนื่องจากงานใน Cloud Industry มีวิวัฒนาการเร็วกว่าตำแหน่งงาน Tech อื่น ๆ มาก Industry นี้จึงให้โอกาสในการทำงานที่ยอดเยี่ยม เมื่อใดที่ความต้องการเปลี่ยนแปลงไป บริษัทต่าง ๆ ก็จะรีบเปิดรับสมัครหา Professionals ที่มีพรสวรรค์ และมี Skillsets ที่เหมาะสม ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเลือกทิศทางใด หากคุณเป็น Professionals ใน Industry นี้ ก็จะช่วยยกระดับอาชีพของคุณขึ้นไปอีกระดับ”

Cloud Roles

คุณ Hope แห่ง Versent กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วทีม Cloud จะมีการ Scrum และ Organised ในรูปแบบ Agile ซึ่งทีม Cloud จะประกอบด้วย Lead Engineer, Architect และอาจมี Software Engineers รวมถึง Third-Party Product Specialist เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ต้องการ

“พวกเขาอาจมี Storage หรือ Networking Specialist ในทีมด้วย” เขากล่าวเสริม “ทีม Cloud ยังต้องการ Iteration Manager ด้วยเสมอ เพื่อนำทีมและ Architect เพื่อขับเคลื่อน Technical Direction โดยที่การ Testing และการทำ Documentation ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนในทีมควรทำ”

ทีม Cloud อาจรวมถึง Data Engineers และ Data Scientists ที่ทำงาน Exploratory ด้วย Data และ Funnels กลับไปยังทีม Engineering, คุณ Jenkins แห่ง Google Cloud กล่าว

พวกเขาอาจได้รับการสนับสนุนจาก Data และทีม Machine Learning ซึ่งมีหน้าที่ดูแลและปรับปรุง Machine Learning Models ทีมงานอาจมี Application, Enterprise และ Cloud Architects ที่ดูแลทุกอย่างในองค์กร รวมถึง Applications รุ่นเก่า

คุณ Patel กล่าวว่า การทำงานของทีม Cloud จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น Cloud Model ที่ใช้, ขนาดของขององค์กร, ระดับของการนำ Cloud ไปใช้, การใช้ External Service Providers และการใช้งาน Cloud Applications จริง

ทีม Cloud อาจยังมีบางบทบาท ที่โดยปกติแล้ว จะไม่ได้ถูกมองว่าเป็นตำแหน่งในทีม Cloud แต่กลับเป็นเครื่องมือที่นำไปสู่ความสำเร็จของการริเริ่มระบบ Cloud ซึ่งรวมถึง Traditional Infrastructure Roles ตลอดจน Executive Sponsor เพื่อกระตุ้นการนำ Cloud Practices มาใช้

“การนำระบบ Cloud มาใช้และ Deployment เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและบางครั้งก็ใช้เวลานาน” คุณ Patel กล่าว “การจะประสบความสำเร็จได้นั้น ทีม Cloud ต้องได้รับการสนับสนุนจากทีมผู้บริหารของบริษัท เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กร และ Cloud Programme จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ End-Users ได้รับการสนับสนุนให้นำ Solutions ใหม่ ๆ มาใช้ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้บริหาร ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่”

คุณ Jenkins แห่ง Google Cloud กล่าวว่า แม้จะมี Skills และ Experience แล้วก็ตาม คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดที่ Cloud Professionals จำเป็นต้องมี เพื่อประสบความสำเร็จ ก็คือ ‘ความอยากรู้และอยากเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา’

“ความอยากรู้และอยากเรียนรู้ เกี่ยวกับภาพรวม และ Applications จะช่วยให้ IT Professionals สามารถคิดถามคำถามได้ เช่น ‘ทำไมเราถึงต้องการ Solution นี้’ และ ‘มีวิธีใดบ้างที่เราสามารถปรับปรุงสถานการณ์นี้ได้’ และด้วยสิ่งนี้จึงเป็นแรงผลักดันในเรื่อง Self-Learning และ Self-Development ซึ่งมีความสำคัญต่อ Career Development” เขากล่าว

อีก Soft Skill ที่สำคัญก็คือ การเข้าใจและเอาใจใส่ Customer และ User เพราะสิ่งสำคัญคือ คุณต้องเข้าใจว่า Cloud Technology สามารถใช้ประโยชน์และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร

“Cloud เคยเป็นแค่ทฤษฎี” คุณ Jenkins กล่าว “มันถูกมองว่าเป็น Datacentre ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็น Globally Scalable Distributed Network of Compute, Storage and Services รวมทั้งมันเป็น Platform ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นไปที่ Ideas และความแตกต่าง แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ Infrastructure อีกทั้ง Cloud ยังคงถูกพัฒนา และพวกเราต้องการคนที่กล้าท้าทายและทำทุกอย่างให้เกิดขึ้นจริง”

หากอ่านบทความนี้จบแล้ว คุณรู้สึกสนใจและอยากเติบโตในสายงาน Cloud Computing สามารถติดต่อ ISM Technology Recruitment และส่ง Resume ของคุณได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่

ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการมากว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย

Source: https://www.computerweekly.com/

​​​

en