See the original English version of this article here
การพัฒนา Software เป็นอาชีพที่รู้สึกเหนื่อยหน่ายเหนื่อยล้า วิตกกังวล และหมดแรงจูงใจในการเขียน Code ได้ง่าย ซึ่งหากเป็นบ่อย ๆ หรือปล่อยไว้นาน ๆ ย่อมไม่ส่งผลดีทั้งต่อสุขภาพและการทำงานอย่างแน่นอน ดังนั้น ในบทความนี้จะมาแนะนำ 4 แนวทาง เพื่อเป็น Software Developer ที่มีความสุข
1. ฉลองและมีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
ด้วยลักษณะงานคุณอาจต้องนั่งอยู่หน้าจอ Computer เป็นเวลานานหลายชั่วโมง เพื่อหาว่าทำไม Code ถึงเกิดปัญหาทั้งที่มันเคยใช้งานได้ ถึงแม้คุณจะมีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว แต่บางครั้งก็เลี่ยงไม่ได้ที่คุณจะรู้สึกหงุดหงิดกับงานที่ทำ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งมีการแข่งขันในการทำงานมากเท่าไร มันก็อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของคุณ และแน่นอนว่าท้ายที่สุดมันจะกระทบมาถึงงานที่อยู่
เพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น คุณจำเป็นต้องใช้สติให้มากและปรับความคิด คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขและพึงพอใจกับสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เช่น เมื่อคุณ Run Code ของคุณแล้วมันไม่มีปัญหาใด ๆ คุณก็ควรชื่นชมกับความสำเร็จของตัวคุณเองแม้ว่างานนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม คุณควรให้รางวัลตัวเองสำหรับความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณได้รับจากงานใสแต่ละวันของคุณ เพราะนอกจากจะทำให้คุณลดความวิตกกังวลในการทำงานลงแล้ว ยังทำให้ส่งผลดีต่อการทำงานในอนาคตด้วย เพราะเมื่อคุณมีความสุขกับความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณอย่างสม่ำเสมอ สมองของคุณก็จะเกิดความเคยชินกับวิธีคิดและการกระทำแบบนั้น ต่อไปแม้คุณจะเจองานจะยากซับซ้อนแค่ไหน คุณก็จะผ่านสิ่งเหล่านั้นไปได้ด้วยวิธีการเดียวกันนี้
2. หากิจกรรมอื่น ๆ ทำบ้าง (ที่นอกเหนือจากงานหลักของคุณ)
แม้คุณจะรักในสายอาชีพ Software Developer ของคุณ แต่เชื่อว่าคุณก็อาจมีความเบื่อหน่ายอยู่บ้างในบางช่วงจังหวะ หรือไม่ก็อาจไม่มีแรงจูงใจในการเขียน Code หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการพัฒนา Software และเมื่อคุณเกิดความรู้สึกดังที่กล่าวมา ก็ขอแนะนำให้คุณลองทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่นอกเหนืองานพัฒนา Software เสียบ้าง การหยุดพักผ่อน ละจากงานที่คุณทำอยู่ทุกวันดูจะเป็นทางออกที่ดี ไม่ว่าจะเล่นกีฬา เล่นดนตรี ฟังเพลง ออกไปเที่ยวกับเพื่อน หรือแม้แต่การทำอาหารให้กับเพื่อนและครอบครัวของคุณ ทั้งหมดนี้ถือเป็นกิจกรรมที่คุณสามารถทำได้นอกเหนืองานประจำของคุณในฐานะของ Software Developer ความสดชื่นและความสุขจากกิจกรรมเหล่านี้ จะทำให้คุณมีพลังและความตื่นเต้นในการกลับมาทำงานอีกครั้ง
3. หาคนที่มาร่วมกัน/ช่วยกันแก้ปัญหา
การร่วมกันแก้ปัญหากับเพื่อนร่วมงานของคุณ จะช่วยสร้าง Connection ที่ดีต่อกันนอกเหนือจากการแก้ปัญหา ซึ่ง Connection ที่ว่านั้น จะขยายไปสู่การเสริมสร้างบรรยากาศในการทำงานอีกด้วย ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมความร่วมมือกันและการทำงานร่วมกัน จะช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำงานของคนทำงานลง เหตุผลก็คือ ไม่มีใครที่ต้องรับภาระหนักอึ้งอยู่เพียงคนเดียว เพื่อให้งานหรือ Project ที่ได้รับมอบหมายเสร็จตามแผนที่วางไว้ มันเป็นการทำงานร่วมกันเป็นทีม ดังนั้น ความรับผิดชอบ และ Workload จะถูกกระจายไปยังคนในทีม รวมทั้งความคาดหวังจากคนทำงานแต่ละคน ก็จะถูกกระจายออกไป ไม่ตกเป็นภาระหรือหนักอยู่ที่คนใดคนหนึ่ง
4. หยุดพักเป็นระยะ เมื่อเจองานที่ยากลำบาก
คนเราจะมีแนวโน้มที่จะฝังตัวเองอยู่กับการทำงาน เรารู้สึกว่าต้องพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอ ด้วย Project ที่มีขนาดใหญ่และมูลค่าสูง อาจทำให้งานมีความซับซ้อนและมีความคาดหวังจากผู้บังคับบัญชาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ สูง สิ่งเหล่านี้ทำให้เราสูญเสียตัวตนไปกับการทำงาน เรามักจะสละเวลาส่วนตัวและสุขภาพ เพื่อให้งานเสร็จได้ทันตาม Deadline เรามักจะไม่ทำในสิ่งพื้นฐานที่ควรทำซึ่งดีต่อสุขภาพของเรา เช่น การหยุดพักสัก 30 นาทีเพื่อพักกลางวัน หรือพักจากงานที่กำลังทำอยู่เป็นระยะ ๆ ในทางตรงกันข้ามเรากลับเลื่อนเวลาพักกลางวันออกไปเพื่อรีบทำงานของเราให้เสร็จ ซึ่งการทำแบบนี้จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความวิตกกังวลในการทำงาน
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการมา 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย
หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่