See the original English version of this article here
เมื่อเราได้ยินคำว่า ‘Hacker’ เราอาจนึกถึงพวกคนร้ายที่ Hack เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อย่างผิดกฎหมาย และก่ออาชญากรรม แต่ไม่ใช่ว่า Hacker ทุกคนจะเป็นอันตราย เพราะเรามีทั้ง “Hacker หมวกขาว” ที่ Hack เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ และ “Hacker หมวกดำ” ที่หาประโยชน์อย่างผิดกฎหมายตามที่คนส่วนใหญ่รู้จัก และในบทความนี้ ISM จะแนะนำให้รู้จักกับ 10 Hackers ที่ขึ้นชื่อว่า อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ มาดูกันว่ามีใครบ้าง
1. Kevin Mitnick
Kevin Mitnick ถูกจัดให้เป็น Hacker อันดับต้น ๆ เพราะเขาเป็น Computer Hacker ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก และเขาได้รับเลือกให้เป็น “อาชญากรคอมพิวเตอร์ที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ” โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ อีกด้วย
Mitnick เริ่มอาชีพ Hacker ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งในปี 2524 เขา Hack เข้าไปใน North American Defense Command (NORAD) และได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นครั้งแรก ต่อมาได้มีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง ‘War Games’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงเหล่านี้
ในปี 2532 Mitnick ได้ Hack ระบบเครือข่ายของ Digital Equipment Corporation (DEC) ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกจับและถูกส่งตัวเข้าคุก และหลังจากถูกปล่อยตัว เขาก็ได้ Hack ระบบข้อความเสียงของ Pacific Bell เพื่อแสดงให้ทุกคนรู้ว่า เขาสามารถทำมันได้(อีกครั้ง)
2. Albert Gonzalez
เมื่อพูดถึง Computer Nerds ในยุคแรก ๆ คือ ลูกชายของผู้ลี้ภัยชาวคิวบา โดยเมื่อเขาอายุได้ 12 ขวบ Gonzalez ได้ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องแรกด้วยเงินของตัวเอง และภายในเวลาเพียง 2 ปี เขาได้ Hack เข้าไปในองค์การ NASA
รัฐบาลได้จับกุม Gonzalez ตอนที่เขาอายุ 22 ปี โดยตั้งข้อหาฉ้อโกงบัตรเดบิต ที่เกี่ยวข้องกับการขโมยข้อมูลบัตรเดบิต โดยเขาได้ขโมยบัญชี Payment Card กว่า 180 ล้านบัญชี จากบริษัทต่าง ๆ
Gonzalez และทีมของเขา ได้ขโมยเงินเกือบ 256 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก TJX และต่อมา Gonzalez ก็ได้รับโทษจำคุก 20 ปี ติดต่อกัน 2 ครั้ง และจะพ้นโทษในปี 2568
3. Jonathan James
Jonathan James ภายใต้นามแฝงของ ‘C0mrade’ ถือเป็นหนึ่งใน Hackers ที่มีฝีมือฉกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเขาเคยเข้าถึง Private Network Systems เพราะเพื่อต้องการความสนุกเท่านั้น
เมื่อตอน James อายุ 15 ปี เขาได้สร้างประวัติศาสตร์ ให้กับโลกแห่งอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ โดยเขา Hack เข้าไปใน NASA กระทรวงกลาโหม รวมถึง Bell South และยังขโมย Software อีกด้วย เหตุการณ์นี้ทำให้ NASA ต้องปิดระบบเป็นเวลา 21 วัน ทำให้เกิดมูลค่าความเสียหายประมาณ 41,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ในปี 2550 Company Networks ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งถูกโจมตี ซึ่งเป็นการโจมตีที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลได้ ดังนั้น James จึงถูกสงสัยและถูกสอบสวน ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิเสธการมีส่วนร่วมก็ตาม และนั่นทำให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย ในปี 2551 เพราะเขาคิดว่าจะถูกตัดสินว่ามีความผิดในอาชญากรรมที่เขาไม่ได้ทำ
4. Anonymous
‘Anonymous’ เป็นหนึ่งในกลุ่ม Hacker ที่น่าขายหน้าที่สุดในโลก เพราะไม่มี Membership หรือ Hierarchy อย่างเป็นทางการ ดังนั้น ด้วยนามแฝง Anonymous ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถทำได้
เป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว ที่ Hacker กลุ่มนี้ได้จัดแสดงองค์กรที่เน้นแนวคิดเรื่องความยุติธรรมทางสังคม เมื่อตอนที่รัสเซียโจมตียูเครน ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บัญชี Twitter ชื่อ “Anonymous” ซึ่งมีผู้ติดตาม 7.9 ล้านคน ได้ประกาศสงครามไซเบอร์ กับประธานาธิบดีของรัสเซีย Vladimir Putin หลังจากนั้น ทางกลุ่มอ้างว่า พวกเขาได้ปิดการใช้งานเว็บไซต์ของรัฐบาลรัสเซีย และทำให้ข้อมูลต่าง ๆ รั่วไหล
Anonymous ทำงานร่วมกับ World Governments หลาย 10 แห่ง เพื่อสังคมและการเมืองในนาม “Hacktivism”
5. ASTRA
Astra เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า อาวุธ และภายใต้นามแฝง “Astra” นั้น Hacker ชาวกรีกได้ใช้เวลามากกว่า 5 ปี ในการขโมยข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางอาวุธ (Weapons Technology) จาก Servers ของ Dassault Group ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องบินฝรั่งเศส
และในปี 2551 เขาได้รับการยอมรับว่าเป็น นักคณิตศาสตร์ชาวกรีกวัย 58 ปี และทางการก็ได้ควบคุมตัวเขา และจากการ Hack ของเขา ทำให้ Dassault Group ขาดทุนถึง 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เขาก็ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 6 ปี
6. Adrian Lamo
ด้วยวิถีชีวิตที่ไม่อยู่กับที่เป็นหลักแหล่งของ Adrian Lamo ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “Homeless Hacker” อย่างไรก็ตาม ในปี 2545 เขาได้บุกเข้าไปใน Internal Computers ของ The New York Times ได้สำเร็จ
จากการโจมตีครั้งนี้ Lamo ได้เข้าถึง Database ที่เป็นความลับ ซึ่งรวมถึง Database ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของคนกว่า 3,000 คน ที่เขียนบทวามคิดเห็นใน Op-Ed Section ของหนังสือพิมพ์ เขาได้รับโทษคุมประพฤติ 2 ปี และถูกปรับประมาณ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ
และล่าสุด Lamo ก็ได้เป็นข่าวอีกครั้ง โดยเขาได้รายงานว่า Chelsea Manning เป็นผู้ทำให้ข้อมูลลับของกองทัพสหรัฐฯ รั่วไหล
7. Michael Calce
Michael Calce หรือที่รู้จักในชื่อ “Mafiaboy” เข้ายึดครองเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยได้เมื่ออายุเพียง 15 ปี จากนั้นเข้าได้โจมตี Search Engine ชั้นนำในขณะนั้น ซึ่งก็คือ Yahoo
และภายใน 1 สัปดาห์ เขาได้ใช้การโจมตีแบบ DDoS เพื่อโจมตีเว็บไซต์ชื่อดังระดับโลกอย่างอย่าง Dell, eBay, CNN และ Amazon ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจที่ได้เห็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐหลายแห่งล่ม และบริษัทในอเมริกาก็ได้รับการแจ้งเตือนที่ไม่ปกติหลังการเกิดการโจมตีในครั้งนี้อีกด้วย
ในปัจจุบัน Michael เขากลายมาเป็น Hacker หมวกขาว ซึ่งค่อยส่งเสริมการทดสอบด้าน Cybersecurity และการฝึกอบรมเพื่อให้ตระหนักถึงเรื่องนี้ เพื่อปกป้องธุรกิจจากอันตรายต่าง ๆ ทางอินเทอร์เน็ต
8. Kevin Poulsen
เมื่อเป็นวัยรุ่น Kevin เริ่มโจมตีเข้าไปใน Computer Network ของ Pentagon ที่ชื่อว่า ARPANET และในปี 2531 และเขาได้ทำการ Hack จนทำให้มีปัญหาทางด้านกฎหมาย เขาจึงแอบหลบหนีและซ่อนจากการถูกจับกุม ในขณะเดียวกันก็คอย Hack ความลับสำคัญต่าง ๆ ของทางการ
ในปี 2533 เขากลายเป็นข่าวพาดหัว เมื่อเขา Hack เข้าไปในสถานีวิทยุที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เพื่อให้ชนะการแข่งขัน เพื่อให้ได้รับรางวัลเป็นรถ Porsche รุ่นใหม่ล่าสุด, ทริปท่องเที่ยว และเงินสด 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงถูกควบคุมตัวและถูกตัดสินให้ห้ามใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลา 3 ปี
ปัจจุบัน Kevin ทำงานเป็นนักเขียน และ Hacker หมวกขาว ให้กับนิตยสารชื่อดังอย่าง Wired และ The Daily Beast
9. Gary McKinnon
ระหว่างปี 2544 ถึง 2545 Hacker ชาวสก็อตชื่อ Gary McKinnon ได้เจาะเข้าไปใน American Military Networks ทั้งหมด 97 เครือข่ายได้สำเร็จ เขาถูกกล่าวหาว่าได้โพสต์ข้อความบน Website ของกองทัพว่า “ความปลอดภัยของคุณ มันแย่มาก”
เขาอ้างว่า เขากำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการปกปิดเรื่อง UFO และการปราบปรามพลังงานอิสระ (Free Energy) อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวหาว่า เขาได้ลบข้อมูลสำคัญบางส่วนออกไป และทำให้ 300 Machines ใช้งานไม่ได้ ซึ่งสร้างความเสียหายมากกว่า 7 แสนดอลลาร์สหรัฐ
แม้ว่าสหรัฐฯ จะพยายามส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่เขาก็ยังอาศัยอยู่ในสถานลี้ภัยของสหราชอาณาจักร
10. Julian Assange
เมื่ออายุ 16 ปี Julian Assange เริ่มทำการ Hack โดยใช้นามแฝงว่า “Mendax” เขาสามารถเข้าถึงเครือข่ายของ Pentagon, Citibank, Lockheed Martin, NASA และ Stanford University ได้ตลอดระยะเวลา 4 ปี
Assange ได้ก่อตั้ง WikiLeaks ในปี 2549 เพื่อเป็น Forum สำหรับเผยแพร่ เอกสารลับและข่าวรั่วไหลต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลลับ และต่อมา เพื่อดำเนินคดีกับ Assange ภายใต้พระราชบัญญัติจารกรรมปี 2460 สหรัฐอเมริกาได้เปิดการสอบสวนเขาในปี 2553
ตอนนี้เขายังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในสหราชอาณาจักร และถึงอย่างไรก็ตาม ศาลอังกฤษยังคงปฏิเสธคำขอในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสหรัฐฯ
และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 Hackers ที่ขึ้นชื่อว่า อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ คุณจะเห็นได้ว่าในบรรดา Hacker เหล่านี้ มีบางคนที่พยายามพัฒนาและปรับปรุงโลกให้ดีขึ้น ในขณะที่บางคน ก็ต้องการลบล้างแนวคิดเกี่ยวกับ UFO บางคนต้องการชื่อเสียง บางคนก็ต้องการเงิน ซึ่งอย่างไรก็ตาม บุคคลเหล่านี้ล้วนมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ในการช่วยเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอินเทอร์เน็ตและความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ในองค์กรและบริษัทต่าง ๆ
บทความแนะนำ
- ประวัติ Elon Musk ผู้เป็น “อัจฉริยะ ด้าน Programming” คลิกอ่านเลย
- 7 เหตุการณ์ Software Errors ที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล คลิกอ่านเลย
- 10 Tech Blogs พาเจาะลึกเบื้องหลัง เพื่อไม่พลาด Trends ใหม่ ๆ คลิกอ่านเลย
ถ้าคุณชอบเกร็ดความรู้นี้ อย่าลืมกด Like เพจของ ISM Facebook เพื่อไม่ให้พลาดเรื่องราวเจ๋ง ๆ สำหรับคนไอที
หากคุณกำลัง หางาน IT สามารถส่ง Resume สมัครงานกับเราได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume ให้ ISM Technology Recruitment เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ให้คุณได้ “ชีวิตการทำงานในแบบที่คุณต้องการ”
ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการมากว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย
Source: https://levelup.gitconnected.com/