ถ้าขึ้นรถประจำทางผิดสายคุณคงไม่ลังเลที่จะกดกริ่งเพื่อขอลงจากรถ แล้วถ้าเป็นเรื่องงานคุณเคยถามตัวเองไหมว่ามาถูกทางหรือยัง ถ้ายังคุณจะยังไปต่ออีกไหม?
“ลางบอกเหตุ” หรือสัญญาณที่เตือนว่า คุณควรเปลี่ยนเส้นทางอาชีพใหม่ได้แล้ว
ทุกๆ เช้าที่ตื่นมา คุณรู้สึกเบื่อหน่ายทุกครั้งเมื่อต้องไปทำงาน
คุณพร่ำบ่นกับเพื่อนร่วมงานที่มุมกาแฟและระหว่างอาหารกลางวัน
คุณเฝ้ารอคอยแต่เวลาพักเที่ยงและเวลาเลิกงาน
คุณมักจะมองหาข้ออ้างเพื่อไม่ต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท
คุณไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม
คุณรู้สึกว่าทำงานหนักแต่ไม่ได้รับการชื่นชม
ถ้าข้อความข้างต้นนี้โดนใจคุณอย่างแรง ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะแสดงว่าคุณรู้ตัวเองดีว่า เส้นทางที่คุณกำลังเดินอาจมาถึงทางตันแล้ว และเป็นโอกาสที่จะทำให้คุณเริ่มมองหาทิศทางที่ถูกต้องอย่างจริงจัง
อุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลายคนยอมทนอยู่ที่เดิมถึงแม้จะรู้ว่าเดินมาผิดทางก็คือ “ความเคยชิน” และ “การผัดวันประกันพรุ่ง” สองสิ่งนี้จะค่อยๆ ทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัวกับการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ คุณจะรู้สึกติดกับและสิ้นหวัง คุณจะเริ่มหลอกตัวเองว่า อยู่ที่เดิมก็ดีอยู่แล้ว มันเสี่ยงเกินไปที่จะออกไปเผชิญโลกข้างนอก
แล้วสิ่งที่รอคุณอยู่หลังจากการเปลี่ยนแปลงนี้?
คุณหายใจได้คล่องขึ้นเมื่อได้ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำทุกขณะ
คุณจะมองไปข้างหน้าในทุกๆ วัน ด้วยพลังและความกระตือรือร้น
คุณจะกลายเป็นคนมีความคิดริเริ่มและแก้ปัญหาต่างๆได้ดี เพื่อมุ่งให้งานสำเร็จ
คุณจะสามารถโน้มน้าวและจูงใจผู้อื่นได้ด้วยความคิดและความมุ่งมั่นของคุณ
คุณจะมีพลังเต็มเปี่ยมแม้ว่าคุณจะต้องทำงานดึกหรือทำงานในวันหยุดก็ตาม
ชีวิตจะเต็มไปด้วยความหมายและความสุขสดชื่นของคุณจะกระจายไปยังคนรอบข้าง
สิ่งเหล่านี้ดึงดูดใจคุณบ้างหรือเปล่า? ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะย้ายงานไม่ว่าคุณจะอายุ 30 หรือ 60 ปี หลักในการใช้ชีวิตของ สตีฟ จ็อบส์ ข้อหนึ่ง คือ “Drive to do great things” คือ “ค้นหาความปรารถนาที่แท้จริงของคุณให้พบ เพราะหนทางเดียวที่จะสร้างผลงานยิ่งใหญ่ได้ก็คือรักในสิ่งที่คุณทำ จงสร้างความประทับใจให้ตัวเองมิใช่ผู้อื่น” แล้วคุณล่ะรออะไรอยู่?