#1 tech recruiter in thailand

เมื่อต้องไล่ Programmer ออก หลังเริ่มงานเพียงแค่ 15 วัน

See the original English version of this article here

บทความนี้เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ “การไล่ Programmer ออก ทั้งที่เพิ่งเริ่มงานได้เพียง 15 วัน” ของคุณ Abrar Masum ซึ่งเป็น CEO ของ Startup แห่งหนึ่ง เรามาดูสาเหตุที่แท้จริงกันว่า เพราะอะไร Programmer คนนั้นถึงถูกไล่ออกทั้งที่เพิ่งเริ่มงานได้เพียงไม่กี่วัน

สิ่งที่เขาโกหก

แม้คุณ Abrar จะไม่ได้เป็นผู้สัมภาษณ์งานด้าน Technical โดยตรง แต่เขาก็เคยเป็น Programmer และรักการเขียน Program มาก แต่เนื่องจากต้องทำงานด้านการบริหารเป็นหลัก ทำให้ไม่มีโอกาสได้เขียน Program

สาเหตุคือ Programmer คนนี้โกหกเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของเขา โดยบอกว่า เขาเป็นเจ้าของ Startup ด้วย ซึ่งแม้มันเป็นเรื่องจริง แต่คุณ Abrar คิดว่า Projects และ References ที่เขานำมาแสดง ไม่น่าจะใช่ผลงานของเขาเองทั้งหมด

เขาทำ Test ผ่านได้อย่างไร

เขาดูจะเป็น Programmer ที่มีความสามารถ และเขาก็เหมาะสมกับตำแหน่ง Junior Backend Developer อย่างมาก แต่บริษัทกำลังมองหา Senior Backend Developer อยู่

การจ้างงานที่เกี่ยวกับ Technical ของบริษัท ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน:

ขั้นแรก บริษัทจะคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมมาประมาณ 10 คน สำหรับแต่ละตำแหน่งงาน
จากนั้นให้ทำ Test แบบสั้น ๆ โดยปกติจะใช้เวลา 10-20 นาที ทำให้สามารถคัดกรองคนที่โดดเด่นออกมาได้
โดยทั่วไป CEO จะทำการสัมภาษณ์งานในรอบสุดท้าย นอกจากทักษะทาง Technical แล้ว CEO ยังต้องดูว่า พวกเขามีความกระตือรือร้นแค่ไหน หรือเหมาะสมกับวัฒนธรรมการทำงานของบริษัทหรือไม่

ในขั้นตอนสุดท้ายนี้ บริษัทได้ Developers ที่เก่งอยู่ 2 คน และผลของการ Test ก็คือ Programmer คนที่บริษัทเลือกที่จะจ้างงาน ทำคะแนนได้น้อยกว่าผู้สมัครอีกคนหนึ่ง

อันที่จริงคุณ Abrar ก็ไม่แน่ใจว่า เขาผ่านการ Test ได้อย่างไร แต่เขาก็คาดว่า คงมีคนอื่นช่วยเขาในขณะที่ทำ Test ผ่านทาง Online เพราะคงไม่มีใครผ่านการ Test ได้ ทั้งที่ไม่มีความรู้พื้นฐาน

แล้วทำไมถึงจ้างงานเขา

หลังผ่านการ Test คุณ Abrar ก็ได้สัมภาษณ์งานเขาผ่านทาง Online ซึ่งในขั้นตอนนี้ คุณ Abrar เพียงแค่ต้องการดูว่า ผู้สมัครคนนี้เหมาะสมที่จะทำงานในบริษัทหรือไม่

แม้ว่า Programmer คนนี้จะได้คะแนน Test น้อยกว่าผู้สมัครอีกคน แต่ CEO ก็เลือกที่จะจ้างงานเขา เพราะคิดว่า เขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้ตอนที่ได้ทำงานจริง ซึ่งคุณ Abrar จะเลือกผู้สมัครโดยจะพิจารณาจาก 3 ปัจจัยคือ Passion, Skill และ Company Culture

เนื่องจาก Programmer คนนี้ทั้งสอบผ่าน Test รวมทั้งเคยเป็นเจ้าของ Startup และมี Passion ที่จะร่วมงานกับ Startup อื่น ๆ เพื่อจะได้รับประสบการณ์การทำงาน แต่คุณ Abrar คิดว่าที่บริษัทน่าจะปั้นเขาให้ดีกว่านี้ได้

Work Culture ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Startup เมื่อ CEO จะจ้างใครสักคน ก็มักจะพิจารณาถึงปัจจัยนี้อย่างจริงจัง ด้วยความที่ Programmer คนนี้เคยทำงานและเป็นเจ้าของธุรกิจ Startup ดังนั้น คุณ Abrar จึงตัดสินใจที่จะเลือกเขา แทนที่จะเลือกผู้สมัครอีกคนที่ได้คะแนน Test สูงกว่า

ทำไมเขาถึงถูกไล่ออก

ปัญหาเกิดตั้งแต่วันแรก แต่ CTO ของบริษัทก็เห็นใจเขา เนื่องจากเขายังใหม่อยู่ อาจต้องใช้เวลาสักพักเพื่อตาม Projects ของบริษัทให้ทัน

หลังจากนั้น 3 วัน CTO ก็มาบอกคุณ Abrar ว่า ต้องมีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเขาแน่นอน เพราะ เขาไม่สามารถทำงานง่าย ๆ ได้ ไม่เข้าใจพื้นฐาน Project ของบริษัท ขนาด Junior Programmer ก็ยังสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจที่จะให้เวลาเขามากขึ้น

ผ่านไป 10 วัน เขาได้รับมอบหมายให้ทำงานง่าย ๆ ร่วมกับ Junior Programmer แต่เขากลับไม่สามารถให้คำแนะนำ Junior Programmer ได้เลย และรู้สึกเหมือนเขาจะมีความอึดอัดใจเมื่ออยู่ในที่ทำงาน อีกทั้ง Junior Programmer ก็ยังไปบ่นเรื่องของเขาให้ CTO ฟังอีกด้วย

ถึงตอนนี้ บริษัทเริ่มตระหนักว่า เขาน่าจะโกหกข้อมูลใน Resume ของเขา แม้บริษัทไม่ได้พูดเรื่องนี้กับเขา แต่คาดว่า ตัวเขาเองก็คงรู้

หลังเริ่มงานได้ 15 วัน คุณ Abrar ก็เรียกเขามาคุยที่ห้องทำงาน แล้วแจ้งว่า บริษัทคงต้องปล่อยเขาไปด้วยเหตุผลบางอย่าง และคุณ Abrar ก็รู้สึกว่า เหมือนตัวเขาเองก็จะรู้สึกโล่งใจด้วยเช่นกัน

CEO รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้ แต่ก็พยายามช่วยเหลือเขา

มันเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ Abrar ในการไล่เขาออก แต่ก็พยายามช่วยเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยคุณ Abrar ได้ Offer งานในตำแหน่ง Junior Programmer ให้เขา แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

นอกจากนี้ CTO ยังได้พูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องปรับปรุงและวิธีการพัฒนาทักษะของเขา อีกทั้งยังแนะนำ Resources ที่มีประโยชน์กับเขาเพื่อใช้ในการพัฒนาทักษะอีกด้วย

จากเหตุการณ์นี้ ทางบริษัทจึงได้เพิ่มขั้นตอนอื่นเพิ่มเข้ามาในกระบวนการจ้างงาน เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ลักษณะนี้ในอนาคต

การเขียนข้อมูลเท็จใน Resume อาจส่งผลร้ายในภายหลัง

การโกหกข้อมูลใน Resume ของคุณ สามารถย้อนกลับมาทำร้ายคุณได้ตลอดเวลา และที่สำคัญ มันจะทำลายชื่อเสียงของคุณอีกด้วย หากนายจ้างของคุณมารู้ภายหลัง คุณมีสิทธิ์ที่จะถูกไล่ออกได้

นี่คือ สื่งที่ Programmer มักจะโกหกใน Resume ของพวกเขา:

ประสบการณ์  —  จำนวนปีของประสบการณ์การทำงาน อันที่จริงแล้ว นายจ้างมักจะไม่ Strict กับตัวเลขนั้นมากนัก หากประสบการณ์ของคุณใกล้เคียงกับสิ่งที่บริษัทกำหนดไว้

งานที่เคยทำก่อนหน้า — สาเหตุที่ลาออกจากงานก่อนหน้า ผู้สมัครหลายคนมักจะโกหกเรื่องนี้ พวกเขาคิดว่า ถ้าพูดความจริง ผู้สัมภาษณ์จะไม่เลือกพวกเขา ผู้สมัครส่วนใหญ่ออกจากงานก่อนหน้านี้เพื่อหางานที่ดีกว่า ในฐานะนายจ้างก็รู้ดีว่า ไม่ควรตัดสินคนที่ไขว่คว้าโอกาสที่ดีกว่า และควรชื่นชมในความซื่อสัตย์ แต่คุณก็อย่าวิพากษ์วิจารณ์งานเก่าให้มากเกินไป แม้ว่าคุณจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับที่นั่นก็ตาม ผู้สมัครที่ถูกไล่ออกมักไม่ค่อยพูดเรื่องนี้ในการสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม การที่คุณให้ข้อมูลตามความจริง ก็อาจเป็นข้อได้เปรียบของคุณ

การอ้างอิง — การอ้างอิงผลงานของ Programmer ใน Resume บางครั้งก็ไม่เป็นความจริงเสมอไป คำแนะนำคือ ไม่ควร Copy งานของผู้อื่นแล้วอ้างสิทธิ์ว่าเป็นของคุณ มันอาจทำให้คุณโดนไล่ออกได้ในภายหลัง

การได้งานคือเป้าหมาย แต่การรักษาชื่อเสียงก็สำคัญเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ มี Programmer ที่บริษัท 2 คน ไปสมัครงานในองค์กรที่ใหญ่กว่า ด้วยเงินเดือนที่สูงขึ้น

หลังจากที่พวกเขาสมัครงานและผ่านขั้นตอนแรกไปแล้ว นายจ้างก็โทรหาคุณ Abrar เพื่อตรวจเช็คประวัติ ซึ่งมีนายจ้างรายหนึ่งที่รู้จักกับคุณ Abrar เป็นอย่างดี ซึ่งคุณ Abrar ก็ให้การรับรองที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และยังบอกนายจ้างไปว่า พวกเขาจะโชคดีที่มีพนักงาน 2 คนนี้ ถ้าคุณ Abrar สามารถให้เงินเดือนพวกเขาได้ดีกว่านี้ ก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่นอน

ที่คุณ Abrar ทำแบบนี้ ก็เพราะชื่นชม Programmer ทั้งคู่มาก และพวกเขาสมควรจะได้งานนี้จริง ๆ พวกเขาทำงานได้ดีมาก และพวกเขาก็รักษาชื่อเสียงของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

สรุป

จงซื่อสัตย์ตั้งแต่การสัมภาษณ์งาน จนถึงการทำงานในทุกวัน เพราะความซื่อสัตย์จะช่วยให้คุณทำงานด้วยความสบายใจ

อย่าเป็นแค่ Programmer ที่ดี แต่จงเป็นพนักงานที่ดีด้วย เมื่อคุณทำงานด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ บริษัทของคุณก็จะดูแลคุณเช่นกัน

แต่ถ้าคุณคิดว่า คุณไม่สนุกกับการทำงานในบริษัท ก็ให้เปลี่ยนงานซะ หากคุณรักงานของคุณ แต่คุณไม่มีความสุขในที่ทำงาน บางทีปัญหาอาจไม่ได้เกิดจากคุณ

คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นอาชีพในฐานะ Senior Programmer หรือ Junior Programmer เสมอไป หากคุณยังไม่มั่นใจในทักษะของคุณ ก็ลองเริ่มต้นด้วยการเป็นพนักงานฝึกหัด (Intern) ก็ได้ และที่สำคัญ “อย่าเริ่มต้นอาชีพด้วยการโกหกข้อมูลใน Resume ของคุณ”

ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการมา 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย

หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่

Source:  https://betterprogramming.pub/

en