#1 tech recruiter in thailand

6 บทเรียนการทำงาน จากประสบการณ์ของ CTO

See the original English version of this article here

การเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น นอกจากจะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการลองผิดลองถูกแล้วยังช่วยลดความผิดพลาด อีกทั้งยังได้แนวทางที่ถูกกลั่นกรองจากผู้ที่เคยผ่านเรื่องเหล่านั้นมาแล้ว ในบทความนี้เป็น 6 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ ของ CTO ของบริษัท Honeycomb ที่ชื่อ Charity Majors

1. ความรวดเร็วของการเปลี่ยนแปลง จะช่วยเปิดโอกาสได้มากขึ้น

คุณ Charity กว่าวว่า Tech Industry ถือเป็น Industry ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และความรวดเร็วของการเปลี่ยนแปลงใน Industry นี้ ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ได้มากมาย

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงพอจะทราบถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้กันอยู่แล้ว ซึ่งมันช่วยย้ำเตือนว่า หากคุณสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วใน Area ใด คุณก็จะสามารถนำตัวเองให้เข้าไปสู่ Area นั้นได้ก่อนคนอื่น

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องหมกมุ่นอยู่กับ Tools หรือ Concepts ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา แค่ให้รู้ไว้ว่า ความก้าวหน้าที่รวดเร็วของ Industry นี้ ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยไขประตูสู่ความสำเร็จของคุณ

2. ตำแหน่งผู้บริหาร ไม่ได้เป็นแค่การเลื่อนตำแหน่ง

ด้วยความที่เป็น CTO มันทำให้เห็นได้ชัดว่า คุณ Charity มีความเชี่ยวชาญทั้งด้าน Engineering Operations และ People Management ซึ่งสิ่งนี้มีประโยชน์และสำคัญมากสำหรับผู้เชี่ยวชาญหรือทำงานในด้าน Technology ที่ต้องการก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งระดับ Management หรือ แม้แต่อยู่ในตำแหน่งงานปัจจุบันแต่อยากเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการทีม

คุณ Charity ยังกล่าวอีกว่า การเลื่อนมาสู่ตำแหน่งงานบริหาร ไม่ได้เป็นแค่การเลื่อนตำแหน่ง แต่เป็นการเปลี่ยนหน้าที่งาน มันเป็นเหมือนสิ่งล่อใจว่าการเป็นผู้บริหารเกิดจากการที่แต่ละบุคคลทุ่มเทให้กับงาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นกฏเกณฑ์ที่ต้องได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นผู้บริหาร

เพื่อเป็นการสนับสนุนแนวคิดนี้ เธอยังกล่าวอีกว่า ควรจะมีเส้นทางความก้าวหน้าสำหรับผู้ที่ทุ่มเทให้กับงาน ซึ่งจะช่วยให้เกิดภาวะ Leadership และ Ownership ได้มากขึ้นนอกเหนือจาก Career Path ทั่วไปของผู้บริหาร

ในฐานะของ Software Engineer หรือผู้เชี่ยวชาญด้าน Technology นั้น ในท้ายที่สุดควรคำนึงถึงเป้าหมายในอาชีพการงานของคุณ (ซึ่งหมายถึง “สิ่งที่คุณต้องการจะเป็น เมื่อคุณเติบโตในหน้าที่การงาน”) ไม่ว่าเป้าหมายเหล่านั้นจะรวมไปถึงการเรียนรู้ทักษะการบริหารหรือไม่ก็ตาม

3. Agency และ Ownership

เมื่อกล่าวถึงทักษะของการบริหาร คุณ Charity ก็กล่าวถึงแนวคิดคู่ขนานอย่าง Agency และ Ownership ได้อย่างน่าสนใจ

เธอได้อธิบายว่า การมี Engineer ที่ใส่ใจเป็นธุระและติดตามในงานบางอย่างอยู่ในทีมนั้น เปรียบเหมือนการได้ “ของขวัญ” ล้ำค่า เพราะในมุมมองของ Manager แล้ว คนที่ใส่ใจเป็นธุระและติดตามงานที่ทำ จะช่วยให้ Manager ไม่ต้องกังวลกับพวกเขา และหันไป Focus งานที่จำเป็นในส่วนอื่น ๆ ได้

ในฐานะของ Software Engineer และผู้เชี่ยวชาญด้าน Technology นั้น ควรนำการใส่ใจเป็นธุระและติดตาม Projects และ Products เข้ารวมในเป้าหมายด้วย (ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะทำได้มาก-น้อยแค่ไหน แต่ว่า Work-Life Balance ก็ยังถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของผู้ที่ต้องการเติบโตในหน้าที่การงานไปเป็นหัวหน้างานหรือบทบาทของการบริหาร

4. ทำความรู้จักกับผู้คนให้มาก

เมื่อกล่าวถึงประเด็นของการให้คำปรึกษา (Mentorship) คุณ Charity กลับมีแนวคิดที่แตกต่างและน่าสนใจ คือเธอคิดว่า การทำความรู้จักกับผู้คนให้มาก/การรู้จักคนเยอะ ๆ ดูจะมีประโยชน์มากกว่าการคอยรับปรึกษาจากคนอื่น

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เธอสนับสนุนให้หาเพื่อนหรือทำความรู้จักกับผู้ที่มีประสบการณ์และมีความรู้มากกว่าตัวคุณเอง เธอบอกว่ามิตรภาพนั้นดูจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าการแค่ให้คำปรึกษา

คุณ Charity เชื่อว่า นี่เป็นการสร้าง Network ของผู้ที่เชี่ยวชาญด้าน Technology เข้าด้วยกันเพื่อจะได้มีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

ไม่ว่าคุณจะสร้าง Network กลุ่มคนรู้จักด้วยวิธีการใดก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่คุณควรทำอย่างยิ่ง เพราะการที่คุณมีคนเก่ง ๆ รอบตัว จะทำให้คุณเติบโตใตสายอาชีพได้ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยให้คุณได้มีสังคมของผู้คนที่มีความรู้ความสามารถใน Field เดียวกัน

5. อย่าฝืนธรรมชาติของตัวคุณเอง

คุณ Charity เล่าว่า การทำงานในส่วนของ Operation ของ Engineering นั้น เธอมักจะมองหาว่า งานส่วนไหนที่มีความจำเป็นและมีความสำคัญ เมื่อเธอหาเจอแล้ว เธอจะรู้สึกสนใจในงานเหล่านั้น

ดังนั้น เมื่อเธอต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และลงทุนในความรู้หรือเวลาในด้าน Technical มันจำเป็นที่ต้องตอบให้ได้ว่า นั่นเป็นงานที่จำเป็นหรือไม่ ซึ่งการทำเช่นนี้ จะช่วยให้เธอสามารถแบ่งเวลาในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น

พวกเราหลายคนมีแนวโน้มที่จะโน้มเอียงไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของเราหรือหลีกเลี่ยงสิ่งที่เราไม่ชอบ ในกรณีนี้เธอแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการทำให้ตัวเองล้มเหลวด้วยการฝืนสภาพร่างกาย วางกรอบสิ่งที่สำคัญกับคุณในบริบทที่เหมาะกับความชอบของคุณ

6. จงยิ้มรับและยินดีกับสิ่งที่ผู้คนกล่าวถึงคุณ

ในช่วงหนึ่งของการทำงานของคุณ Charity เธอเลือกที่จะท้าทายวิธีที่เธอรู้สึกกับตัวเอง ด้วยการเก็บข้อมูลในสิ่งที่ผู้คนพูดถึงเธอ

การเก็บบันทึกของ Feedback ในเชิงบวก รวมทั้งความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เธอได้รับ จะช่วยให้เธอได้ตระหนักถึงศักยภาพของเธอ และต่อสู้กับความไม่มั่นคงในจิตใจที่เราทุกคนล้วนก็เคยรู้สึก (ซึ่งแต่ละคนต่างก็รู้สึกมาก-น้อยไม่เท่ากัน)

ในชีวิตของเธอ เธอพยายามเก็บบันทึกความสำเร็จและ Feedback ในเชิงบวกที่เธอได้รับ เพราะสิ่งเหล่านั้นมันช่วยทำให้คุณรู้สึกดี เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งเพื่อต่อสู้กับความสงสัยในความสามารถของตัวเอง

หวังว่าประสบการณ์เหล่านี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับคนทำงานด้านไอทีและเทคโนโลยีเป็นอย่างยิ่ง และขอแนะนำให้ลองนำสิ่งเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองดู

ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่

Source: https://dev.to/

en