See the original English version of this article here
หากคุณเคยเขียน Program มาก่อนโดยเฉพาะคนที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้วระยะหนึ่ง คุณน่าจะเคยพบปัญหาว่า บางครั้งก็เรียนรู้ในบางเรื่องช้ากว่าที่ควรเป็น, เขียน Code ไม่ออก หรือเจอปัญหาเรื่องถูกรบกวนสมาธิอยู่บ่อย ๆ ส่งผลให้คุณทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเพื่อลดปัญหาเหล่านั้น เรามาดู 10 เคล็ดลับ ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการ Coding กัน
1. ให้ Split หน้าจอ
ในช่วงที่คุณเริ่มต้นเรียนรู้การ Coding ขอแนะนำให้คุณ Split หน้าจอออกเป็น 2 จอ โดยจอหนึ่งใช้ Coding เพื่อทำงานของคุณใน Jupyter Notebook หรือ Code Editor ส่วนอีกจอสำหรับ Web Browsers ของคุณ คุณสามารถใช้ Web Browser ของคุณเพื่อดู Documents เช่น Stack Overflow และ Tutorials แต่เมื่อคุณเชี่ยวชาญมากขึ้น คุณมักจะต้องการ Focus ไปที่งานชิ้นเดียว คุณสามารถใช้ Keyboard Shortcut เพื่อสลับระหว่างหน้าจอที่ถูกแบ่งเป็นแบบเต็มหน้าจอ สำหรับ Mac คุณอาจลองดู BetterSnapTool ซึ่งมีราคา $2.99 ส่วนใน Windows คุณสามารถดูได้ที่นี่
2. ตัดสิ่งรบกวนออก
ปิดพวก Notification บน Computer และโทรศัพท์มือถือของคุณ หรือไม่คุณก็นำโทรศัพท์มือถือวางไว้ห่าง ๆ ตัว (ถ้าสามารถทำได้) หากคุณอยู่ใน Area ที่มีเสียงดัง คุณอาจฟังพวกเพลงบรรเลงคลอเบา ๆ และแนะนำให้ใช้หูฟังที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ เพราะยิ่งคุณ Focus ได้ดีมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งเรียนรู้ได้เร็วขึ้นมากเท่านั้น
3. พิมพ์ตัวอย่างของ Code เอง
คุณไม่สามารถอ่าน Tutorial แล้วคาดหวังว่าจะสามารถจำมันได้ทั้งหมด การ Copy & Paste มีประโยชน์น้อยกว่าการที่คุณพิมพ์ Code ด้วยตัวเอง เพราะมันจะช่วยให้คุณจดจำและเข้าใจได้ดีกว่า เหมือนอย่างคำกล่าวของ Benjamin Brewster (ไม่ใช่ Yogi Berra) ที่ว่า “ในทางทฤษฏีแล้ว ทฤษฎีและการปฏิบัตินั้นไม่แตกต่างกัน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มันแตกต่างกัน”
4. ใช้เวลาเรียนรู้หลาย ๆ วัน
เมื่อเรียนรู้ Code Concept ใหม่ ๆ แล้ว ลองตั้งและตอบคำถามเหล่านั้นด้วยตัวคุณเองหลาย ๆ วัน จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า เราจะสามารถจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้จากการทำสิ่งนั้นนาน ๆ หรือทำซ้ำ ๆ หลายครั้ง ได้ดีกว่าการเรียนรู้แบบอัด ๆ เข้ามาในระยะเวลาสั้น ๆ
5. เรียนรู้ด้วยการสอนผู้อื่น
การอธิบาย Concept ให้ผู้อื่นฟังอย่างเข้าใจและชัดเจน (ไม่ว่าจะพูดหรือเขียน) เหมือนเป็นการกึ่ง ๆ บังคับให้คุณเรียนรู้และทำความเข้าใจสาระสำคัญของ Concept เหล่านั้น เรียนรู้และทำความเข้าใจในความสัมพันธ์ รวมทั้งการเปรียบเทียบ ก่อนจะไปอธิบายคนอื่น ซึ่งเคล็ดลับนี้เป็นส่วนหนึ่งของ เทคนิคการเรียนรู้ของ Feynman
6. เรียนรู้ภาษา Programming ก่อน Library
ทำความเข้าใจภาษา Programming ให้ดีก่อนที่จะลองใช้ Library ประเภทตัวแปรอาจไม่ใช่เรื่องที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นกับมัน Classes กับ Attributes และ Methods อาจดูเป็นเรื่อง Advance ขึ้นสักหน่อย แต่เมื่อคุณเข้าใจภาษา Programming เป็นอย่างดี จะทำให้คุณใช้งาน Library ได้ง่ายและมีประโยชน์จากมันได้ขึ้นมาก อีกทั้งช่วยให้คุณทำผิดพลาดน้อยลงและประหยัดเวลาได้มากขึ้น
7. เรียนรู้ทีละสิ่ง
อย่าพยายามเรียนรู้ 2 สิ่ง (หรือหลายสิ่ง) พร้อม ๆ กันในเวลาเดียว เพราะคุณจะไม่แค่เรียนรู้ช้าลง 2 เท่า แต่อาจช้าลงถึง 10 เท่า ช่วงที่คุณทำงาน คุณต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มและอาจเจอข้อมูลที่น่าสนใจจากหลาย Website ซึ่งสิ่งที่มักทำกันก็คือ Save URL ที่สนใจไว้ แต่หาก URL นั้นเป็นเรื่องที่ยังไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสิ่งที่คุณเรียนรู้อยู่ คุณสามารถเก็บพวกมันไว้ก่อนโดยใช้ One Tab (กรณีใช้ Chrome) ซึ่งเป็น Chrome Extension ที่ใช้งานง่ายและมีไว้สำหรับ Save Tabs เพื่อใช้ภายหลัง
8. นอนหลับ, ออกกำลัง และพักผ่อนตามความเหมาะสม
คุณควรทำให้สมองของคุณมีความพร้อมอยู่เสมอเพื่อที่จะเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และรับสิ่งที่มีประโยชน์เข้ามา ด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ พักผ่อนเมื่อรู้สึกล้า และหาเวลาออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
9. เรียนรู้ที่จะ Code ให้เร็วขึ้น
ยิ่งคุณฝึกพิมพ์ Unusual Symbols บ่อยมากเท่าไร จะยิ่งทำให้คุณพิมพ์ได้เร็วขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจที่อาจดูเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณ สามารถช่วยเร่ง Process นี้ได้ คุณควรลงทุนในการเรียนรู้การพิมพ์สัมผัส ซึ่งคุณสามารถฝึกฝนทักษะการพิมพ์ของคุณได้ที่ SpeedCoder
10. ใช้ Keyboard Shortcuts ให้เชี่ยวชาญ
คุณสามารถเรียนรู้ Shortcuts ต่าง ๆ ของ Chrome, Mac และ Windows ได้ และหากคุณเป็น Data Scientist หรือ Data Analyst คุณสามารถดู GitHub Gist ของ Jupyter Lab Shortcuts ได้ที่นี่ นอกจากนี้คุณควรสร้าง Shortcuts สำหรับ Mac Terminal หรือ Linux Terminal ด้วยการเพิ่มบรรทัดต่อไปนี้ใน Bash Profile ของคุณที่ ~/.bash_profile:alias gs=”git status” จากนั้นให้ Restart เครื่องของคุณ แล้วกด Keyboard เพียงแค่ 2 ครั้งแทนที่จะพิมพ์ 2 คำ
เนื่องจากบทความนี้เป็นบทความที่ค่อนข้างยาว ยังมีเนื้อหาอีก Part หนึ่งที่น่าสนใจคือ คือ “Learn to Solve Errors Quickly” ซึ่งทีมงานจะนำเสนอในสัปดาห์หน้า อย่าลืมติดตามกันนะครับ
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่
Source: https://towardsdatascience.com/