See the original English version of this article here
คนมักคิดว่าตำแหน่ง QA เป็นงานที่ง่าย เนื่องจากมีหน้าที่คือ ‘เพียง’ การ Test Software เพื่อหา Bugs หรือ Errors บางอย่าง แล้ว Report ไปยัง Developers แล้วกลับไป Test อีกครั้ง แล้วก็ Report อีกครั้ง แล้วทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ Riry Juliani ซึ่งเป็น Software QA ที่เขียนบทความนี้ เธอบอกว่า มันมีเรื่องราวที่ซับซ้อนมากกว่าที่ใครๆ และมีหลายคนเข้าใจผิดอยู่ เรามาดูกันว่า 5 เรื่องเข้าใจผิด เกี่ยวกับการ Test มีอะไรบ้าง
นี่คือเรื่องที่คนมักเข้าใจปิด/ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งที่ Software QA Tester ทำ
1. Testing เป็นเรื่องง่ายๆ
“มีอะไรที่ยากสำหรับการ Test Software? นี่เป็นงานที่ง่ายที่สุดในสาย IT” ประโยคนี้ Riry ไม่คิดแบบนั้นเลย การทดสอบคุณภาพที่เหมาะสมอาจเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก ทั้งวางแผนการ Test, สร้าง Test cases, การ Run Regression Tests, การเขียนรายละเอียดของขั้นตอนการ Reproduce Bugs ถือเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ต้องทำด้วยความอดทน และให้ความสำคัญกับรายละเอียดเป็นอย่างมาก การมีความคิดวิเคราะห์ขั้นสูง ถือเป็นทักษะที่จำเป็นเมื่อคุณต้องมา Test Software
2. ใครๆ ก็สามารถทำการ Testing ได้
ทุกคนสามารถทำอาหารได้ แต่ทุกคนสามารถทำอาหารรสเลิศได้หรือไม่? แน่นอนว่า “ไม่ใช่” เฉพาะผู้ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักในด้านการทำอาหารมาแล้วเท่านั้น ถึงมีโอกาสที่จะทำได้ ซึ่งมันก็เหมือนกันกับเรื่อง Software QA Testing คือ การที่คุณจะ Test เพื่อให้มีทั้งประสิทธิผลและประสิทธิภาพนั้น จะต้องใช้หลายๆ ทักษะและความรู้ ประกอบกันนั่นเอง
3. การ Testing เป็นการทำให้แน่ใจว่าจะไม่มี Bug 100%
การค้นหา Bugs ให้พบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของ QA Testing ขณะเดียวกันต้องให้แน่ใจว่า Features ต่างๆ ยังทำงานตรงกับ Requirements อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะให้ Software ปราศจากข้อบกพร่อง 100% เลยนั้น ดูจะ ”เป็นไปไม่ได้” เชื่อเถอะว่า การจะให้ระบุข้อบกพร่องทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้นั้น เป็นเรื่องทำได้ยากมาก มันอาจจะมีหลงเหลือบ้างเล็กๆ น้อยๆ
4. ไม่ต้องใช้ QA Specialists เพราะ Developers ก็สามารถทำการ Testing ได้
มีบางคนคิดว่าบทบาทหน้าที่ของ Software QA Testers ใน Development Life Cycle ขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัท ในบริษัทขนาดเล็ก ทุกขั้นตอนของการ Test สามารถทำได้โดย Developers ของพวกเขา ซึ่งนั่นก็ถูกต้อง แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Developers มีงานแน่นล้นมือ แถมมี Deadline ที่กระชั้นมาก? พวกเขาอาจจะไม่มีสมาธิในการลงรายละเอียดของการทำ Regression Tests ในขณะที่ยังต้องเผชิญกับความซ้ำซ้อนของ Smoke Tests อีกด้วย แต่ที่ทำงานของ Riry เชื่อว่า Software ที่ดีไม่ได้มีแค่ Features ที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใส่ใจในกระบวนการ Test ที่ได้รับการจัดการโดยผู้ที่รับผิดชอบด้วย
5. Automated Testing มีประสิทธิภาพมากกว่า Manual Testing
Riry เชื่อว่า การใช้ Automation 100% ในเรื่อง QA ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ มันจำเป็นต้องใช้การดูและความรู้สึกจากมนุษย์ร่วมด้วย ว่า UI/UX ดีเพียงพอสำหรับ Users หรือไม่ จะต้องให้มนุษย์ช่วยพิจารณาเรื่องการวางปุ่มต่างๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสมด้วย ซึ่ง Automated testing จะสามารถบอกเราได้ว่า พิกัดนั้นถูกต้องหรือไม่ แต่ประสบการณ์ของมนุษย์เท่านั้นที่จะสามารถบอกได้ว่า ปุ่มนั้นถูกวางไว้อย่างถูกต้องและมัน OK แล้วหรือยัง ซึ่ง Manual Testing ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบางเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณของมนุษย์
ก่อนที่ Riry จะมาทำตำแหน่งนี้ เธอก็เคยเข้าใจผิดๆ แบบ 5 ข้อที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่เมื่อได้มาทำงานเป็น Software QA Tester และอยู่ใน อยู่ใน Process ตลอด ก็ทำให้เธอเปลี่ยนใจ เพราะ QA เป็นบทบาทที่มีความสำคัญในการพัฒนา Software มาก และนอกเหนือจากทักษะการ Test Software แล้ว QA Tester ควรต้องมีความสามารถในการสื่อสารกับ Manager และ Developers เพื่อให้แน่ใจว่า ขั้นตอนการ Test นั้นมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อ Development Process โดยรวมอีกด้วย ดังนั้น ควรให้ Developers ทำงานในส่วนของการ Develop และให้ Testers ทำงานในส่วนของการ Test
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการกว่า 25 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่
Source: https://medium.com/