See the original English version of this article here
คำย่อ คือ คำที่สร้างขึ้นจากการนำอักษรตัวแรกของคำต่าง ๆ มารวมกัน ปัจจุบันเราจะพบกับคำย่อมากมาย โดยเฉพาะในโลกของ Technology ซึ่งเป็นการย่อคำเพื่อทำให้อ่านง่ายและสะดวกขึ้น และแม้ว่าจะมีคำย่ออยู่นับร้อย ๆ คำ แต่ในบทความนี้จะเป็น 8 คำย่อ ที่ Programmer ทุกคนควรรู้จักไว้
1. OOP หรือ POO
มันย่อมาจาก Object-Oriented Programming (OOP) มันเป็นคำย่อที่คุณควรรู้จักไว้เนื่องจากมันมักจะถูกใช้อยู่บ่อย ๆ โดยรวมแล้ว มันหมายถึง กระบวนทัศน์การเขียน Program โดยที่ Code ถูกสร้างขึ้นด้วยการกำหนดให้เป็น “Object” ที่เป็นการจำลอง Object จริง ๆ รวมทั้ง Behavior และ Interaction ของมันกับ Objects อื่น ๆ
OOP ตั้งอยู่บนหลาย ๆ หลักการ ที่ทุกภาษาต้องปฏิบัติตาม เพื่อที่จะสามารถทำงานกับ Object ได้ เช่น Encapsulation, Inheritance และ Polymorphism
ส่วนใหญ่แล้ว ภาษา Programming สมัยใหม่ มักจะมีการรวม OOP เอาไว้ในกระบวนทัศน์ที่พวกมันรองรับอยู่ด้วย
2. SCM หรือ VCS
ปัจจุบัน เชื่อว่า Programmer แทบทุกคนน่าจะมีการใช้ Source Code Control System หรือ Source Control Management หรือที่พวกเรามักจะเรียกกันว่า Version Control System คุณจะเห็นว่าทั้ง 2 คำ สามารถใช้แทนกันได้ และคำทั้ง 2 ก็หมายถึงสิ่งเดียวกันในทั้ง 2 กรณี
มันเป็น System ที่ช่วยให้เราสามารถจัดเก็บ Source Code ของ Programs และ Files อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง, ตรวจสอบ และบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด รวมทั้ง Version ต่าง ๆ ของ File แต่ละ File ที่ได้รับการบันทึกไว้อย่างชัดเจน
มันเป็น Tool ที่มีศักยภาพและมีความจำเป็นในกรณีที่เราต้องทำงานร่วมกับ Programmer คนอื่น ๆ ใน Project เดียวกัน หรือแม้แต่เราจะทำงานเพียงคนเดียว มันก็ช่วยให้เราสามารถย้อนกลับไปยังจุดใดก็ได้ใน Application ของเราในช่วงก่อนหน้านี้, ติดตามการเปลี่ยนแปลงจนกว่าเราจะพบสิ่งที่ทำให้เกิดความผิดพลาด, ทำงานแยกต่างหากใน Features ใหม่ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อ Product หลัก เป็นต้น
คุณควรเชี่ยวชาญอย่างน้อยสักหนึ่ง Tool โดย Tool ที่พวกเรารู้จักกันดี ก็เช่น Git, Mercurial และ Subversion โดย 2 ตัวแรกเป็น Distributed Systems ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Central Repository และมีความยืดหยุ่นมากกว่า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Git (ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดย Linus Torvalds) ถือเป็น VCS ตัวแรก ๆ และมันก็ถูกใช้มากที่สุดจากคนทั่วโลก และเหนือสิ่งอื่นใดต้องขอขอบคุณ GitHub ที่ทำให้ทุกคนมี Open Source ใช้ในปัจจุบัน
3. WYSIWYG
มันย่อมาจาก What You See Is What You Get ซึ่งถูกใช้เพื่ออธิบาย System ใด ๆ ที่อนุญาตให้ ในขณะที่คุณสร้าง Content ก็สามารถดูผลลัพธ์ได้ด้วยว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร กรณีที่พบบ่อยที่สุดคือ Rich Text Editor ซึ่งในขณะที่เรากำลังเขียน เราก็จะเห็นว่า Result ของมันจะเป็นอย่างไรเมื่อเรา Print มันออกมาหรือ Convert เป็น Portable Format ก็ตาม
4. GUI
มันเป็นคำย่อของ Graphic User Interface หรือ Graphical User Interface
มันเป็นสิ่งที่อยู่ในรูปแบบ Graphic ใด ๆ ที่อนุญาตให้ User สามารถโต้ตอบกับ Application โดยใช้ Icons, Buttons, Visual Indicators เป็นต้น เวลาใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องจดจำคำสั่งต่าง ๆ ให้มากมาย เพียงแค่คลิกไปที่ Icons หรือปุ่มที่ต้องการ คุณก็สามารถใช้งานได้แล้ว
5. API
API ย่อมาจาก Application Programming Interfaces มันเป็นชุดของ Functions และ Methods ใด ๆ ที่ Programmer เปิดเผยให้ Programmers คนอื่น ๆ สามารถใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการอ้างถึง Library โดยตรงหรือเปิดเผยผ่าน Protocol บางอย่าง (HTTP เพื่อเข้าถึงผ่าน Internet)
Feature ที่สำคัญของ API คือ มันเป็นอิสระจากการใช้งานภายใต้ API มันเป็นเหมือนกล่องดำสำหรับ Programmer ที่ใช้งานพวกมัน
ด้วยวิธีนี้ หากเราสร้าง API ในภาษา Programming (เช่น Java) และเปิดเผยผ่าน HTTP เป็น REST API (ถือคำย่ออีกตัวที่ Advance ขึ้นเล็กน้อย ซึ่งหมายถึง Representational State Transfer) แม้เราจะเปลี่ยนวิธีการทำงานในภายหลังหรือเขียนมันใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้งด้วยภาษา Programming อื่น ๆ แต่ตราบใดที่เราไม่ไปเปลี่ยนแปลงส่วนที่เปิดเผย (นั่นคือ Functions, Parameters และวิธีการเข้าถึงของพวกมัน) ก็ถือว่ามันจะยังคงเป็น API เดียวกันสำหรับ Programmer ที่ใช้งานมัน
6. IDE
Integrated Development Environment หรือ IDE เป็น Application สำหรับการพัฒนา Application ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นอกเหนือจากสิ่งที่ Editor ทั่วไปมีให้ มันมี Tools ขั้นสูงมากมายที่จะช่วยเราในการทำงาน เช่น Debuggers, Visual Design, Performance Analysis, Application Testing, Collaboration Tools, Object & Class Inspectors และTools อื่น ๆ อีกมากมาย
IDE บางตัวเหมาะสำหรับการทำงานในหลากหลายภาษา ในขณะที่ IDE บางตัวจะเน้นไปที่ Platform ที่เฉพาะเจาะจง (เช่น Java) ซึ่ง IDE ที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ Visual Studio, Eclipse, Netbeans หรือ IntelliJ IDEA เป็นต้น IDE ถือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในการทำงานของคุณ ดังนั้น ขอให้เลือกสิ่งที่เหมาะกับคุณ และเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากมันให้เต็มที่
7. TDD
คำนี้ย่อมาจาก Test-Driven Development โดย Test-Driven Development เกี่ยวข้องกับการ Test ซึ่งเป็นการ Test Code ทั้งหมดที่คุณเขียน เพื่อให้แน่ใจว่า มันใช้งานได้ครอบคลุมในทุกกรณี และไม่ไปรบกวนส่วนอื่น ๆ ของ Application
แต่ TDD ก็ไปไกลกว่านั้น เนื่องจากเป็นปรัชญาที่บอกเป็นนัยว่า การ Develop จะเริ่มต้นด้วยการ Test นั่นคือ TDD Development จะบ่งบอกเป็นนัย ๆ ถึงขั้นตอนดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจมากหรือน้อยกว่านี้ได้:
ลองนึกถึง Function การทำงานที่เราต้องการสำหรับ Function หรือ Class
สร้าง Test ที่จะใช้ตรวจสอบความถูกต้องว่า คุณกำลังทำงานของคุณอยู่ รวมถึงหลักการเหตุผลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนที่จะลงมือเขียน Code!
ทำการ Implement Function หรือ Class
ส่งไป Test โดยเราจะไม่จบการ Develop จนกว่าจะผ่านการ Test แล้ว
แม้ว่าการทำตามขั้นตอนนี้อาจดูเหมือนจะไม่ Productive แต่จากการศึกษาต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่า ในระยะยาวแล้ว มันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการแบบเดิม เนื่องจากมันช่วยในการออกแบบ Code ได้ดีขึ้น, มีการคำนึงถึงในทุกกรณีได้ดีขึ้น และมีข้อผิดพลาดที่น้อยลง มันทำให้ Code มีประสิทธิภาพและ Maintain ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาเนื่องจากมี Bugs ที่น้อยลง ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มคุณภาพ Code
8. SDK
SDK คือชุดพัฒนา Software (Software Development Kit) มันเป็นชุดของ APIs, ตัวอย่าง Code และ Documentation ที่ Software Manufacturers จัดเตรียมไว้ให้กับ Programmers รายอื่น ๆ ในการ Develop สำหรับ Platform
ตามหลักทั่วไปแล้ว SDK จะถูกเผยแพร่เพื่อให้ตัวอย่างทั่วไปสำหรับระบบปฏิบัติการ (Windows, iOS, Android), Development Platform (เช่น. NET, Java) หรือ Game Console (Xbox) เราสามารถเปรียบเทียบได้ว่า SDK เป็นเหมือน “ตัวกลาง” ที่ Manufacturers วางไว้ระหว่าง System ของพวกเขากับ Application ที่ 3rd Party Developers สร้างขึ้น
ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) เราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการมา 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย
หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ สามารถฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ากำลังรอคุณอยู่